"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 และ 2 ต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหน?

วันนี้เราจะมาดูความคุ้มค่าของแต่ละแผนเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแผนประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น

ประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณี จึงเป็นที่นิยมมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มขับรถหรือเพิ่งออกรถใหม่ เนื่องจากมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและเบี้ยประกันมีราคาสูง
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันผู้ขับขี่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ
คุ้มครองบุคคลภายนอก: รับผิดชอบค่าเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุประกันจะชดเชยให้
คุ้มครองรถยนต์ที่เอาประกัน: คุ้มครองทั้งกรณีรถชน รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีคู่กรณี เช่น ถูกชนแล้วคู่กรณีหนีไป หรือชนกับสิ่งที่ไม่ใช่ยานพาหนะ เช่น กำแพง เสาไฟฟ้า ประกันก็จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ให้

ประกันรถยนต์ 2+
ประกันภัยรถยนต์ 2+ เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าประกันชั้น 2 เนื่องจากมีความคุ้มครองเพิ่มเติมที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ยังคงมีเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าประกันชั้น 1
รายละเอียดการคุ้มครองของประกันรถยนต์ 2+ มีดังนี้:
คุ้มครองบุคคลภายในรถ: ครอบคลุมเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 และชั้น 2 รวมถึงครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่าง ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ยังครอบคลุมถึงค่าประกันตัวในกรณีที่เกิดคดีอาญาด้วย
คุ้มครองบุคคลภายนอก: คุ้มครองทั้งร่างกายและทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ประกัน 2+ จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี หรือค่าซ่อมแซมทรัพย์สิน


สรุป ประกันภัยรถยนต์แบบไหนที่ควรเลือก?
การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการและความเสี่ยงของคุณมากที่สุด ปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาได้แก่
อายุรถยนต์: หากคุณมีรถใหม่ หรือรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี การเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากประกันชั้น 1 ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นการชนกับยานพาหนะอื่นหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังคุ้มครองในกรณีที่ไม่มีคู่กรณีด้วย เช่น การชนกับสิ่งกีดขวาง การชนฟุตบาท หรือแม้กระทั่งความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ ซึ่งทำให้คุณมั่นใจได้ว่า รถของคุณจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ ไม่ว่าคุณจะประสบเหตุแบบใดก็ตาม
รูปแบบการใช้รถยนต์: หากคุณใช้รถน้อย ขับขี่ในเมืองเป็นหลัก หรือไม่ค่อยได้ขับทางไกล ประกันชั้น 2 หรือ 2+ อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ประกันชั้น 2 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ยประกันและรับความคุ้มครองในระดับพื้นฐาน โดยจะคุ้มครองในกรณีที่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินหรือร่างกายของบุคคลภายนอกเท่านั้น และครอบคลุมกรณีรถหายและไฟไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมกรณีรถชนกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ยานพาหนะ

ลักษณะของการขับขี่และการใช้รถ: หากคุณมีประสบการณ์ขับรถมานาน และมีความมั่นใจในทักษะการขับขี่ของตนเอง ประกันภัยรถชั้น 2 จาก MSIG หรือ 2+ อาจเพียงพอต่อความต้องการของคุณ แต่หากคุณเพิ่งเริ่มขับรถหรือขับรถในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ถนนที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีสภาพภูมิอากาศที่ไม่แน่นอน การเลือกประกันชั้น 1 จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถขับขี่อย่างอุ่นใจ และได้รับการคุ้มครองที่ตอบโจทย์ตามความต้องการของคุณในทุกกรณี  แต่ก็อย่าลืมประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ด้วยล่ะ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host