"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่

Burger Factory: Made to Order Burger ความอร่อยที่แตกต่าง



เมื่อพูดถึงเบอร์เกอร์ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงร้านเบอร์เกอร์แบบฟาสต์ฟู้ดจากอเมริกันซึ่งยึดหัวหาดในตลาดมาช้านานแล้ว ส่วนเบอร์เกอร์ในรูปแบบอื่นๆ ที่หรูขึ้นมากว่าฟาสต์ฟู้ด โดยมากก็จะเป็นเพียงเมนูหนึ่งในร้านอาหารฝรั่งสไตล์อเมริกันซะมากกว่า ส่วนร้านที่ขายเบอร์เกอร์เพียวๆ ก็มีอยู่บ้าง แต่ถ้าจะถามว่า Burger Factory มีความพิเศษแตกต่างจากร้านเหล่านั้นยังไง ก็คงต้องหาคำตอบกันด้วยการลงไปเจาะลึกกันถึงเบื้องหลังในครัว และต้องไปลองลิ้มชิมรสชาติเบอร์เกอร์ของเขาดู แล้วจึงจะได้คำตอบว่าเบอร์เกอร์ของ Burger Factory พิเศษกว่าร้านอื่นยังไง แล้วทำไมถึงเป็นร้านที่ห้ามพลาด!!



ความพิเศษอย่างที่หนึ่ง!.....เลือกระดับความดิบ ความสุกของเบอร์เกอร์ได้ด้วยนะ

เบอร์เกอร์ทุกชิ้นของ Burger Factory เป็นเบอร์เกอร์ที่ทำแบบ Made to Order เท่านั้น ลูกค้าสั่งถึงจะย่างเนื้อ ถึงจะจัดวางทุกสิ่งทุกอย่างลงไปบนจาน ซึ่งแน่นอนว่า ลูกค้าสามารถสั่งระดับความสุก ความดิบของเนื้อได้เหมือนกับการสั่งสเต็กเลย จะ Rare, Medium Rare, Medium หรือ Well Done ก็ได้ทั้งนั้น แต่ต้องทำใจนิดนึงว่าอาจจะรอนานกว่าเบอร์เกอร์ฟาสต์ฟู้ดทั่วๆ ไปอยู่สักหน่อย เพราะเขาจะย่างเนื้อบดบนเตา ก็ต่อเมื่อมีลูกค้าสั่งเท่านั้น ไม่มีการย่างเตรียมไว้ก่อน และแต่ละออร์เดอร์จะใช้เวลาย่างประมาณ 15 - 20 นาที ขึ้นอยู่กับระดับความสุกของเนื้อที่ลูกค้าสั่ง ดังนั้นแม้จะช้า แต่รับรองว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยแน่นอน

http://www.wongnai.com/articles/burger-factory
Install by khemtat-l[at]hotmail.com



ความพิเศษอย่างที่สอง!!....Juicy สุดๆ เนื้อชุ่มฉ่ำไม่แห้งตึง

กรรมวิธีการบดเนื้อของ Burger Factory ก็มีเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อเอาไว้ เพราะเขาใช้วิธีหั่นเนื้อให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าก่อน แล้วจึงนำไปบดในปริมาณที่พอเหมาะกับการขายในแต่ละช่วงของวัน เนื้อที่บดรอบเช้าจะเตรียมไว้ทำขายในช่วงเที่ยงและบ่าย ส่วนเนื้อที่บดในช่วงบ่ายแก่ๆ คือเนื้อที่เตรียมไว้ขายในช่วงค่ำๆ  และยังมีการผสมเนื้อและไขมันให้ได้อัตราส่วนที่พอดีอีกด้วย เพื่อให้เวลาปั้น เนื้อจะได้เกาะติดกันและไม่ร่วนจนเกินไปเวลากิน ซึ่งเวลาปั้นเนื้อบด คนครัวจะต้องตักเนื้อขึ้นมาให้ได้น้ำหนัก 180 กรัมพอดีๆ แล้วค่อยเอาเนื้อมาทุบกับฝ่ามือไปเรื่อยๆ จนเนื้อเหนียวติดกันเป็นก้อน แล้วจึงค่อยเอามาปั้นให้เป็นรูปทรงกลมหนาๆ เตรียมย่าง ซึ่งเวลาย่างก็จะมีการพรมเกลือและพริกไทยนิดหน่อย เพื่อให้มีรสชาติ เพราะในตัวเนื้อบดของ Burger Factory ไม่ได้มีการปรุงรสใดๆ ลงไป เพราะอยากให้ลูกค้าได้ลิ้มรสชาติที่แท้จริงของเนื้อมากกว่ารสชา ติของเครื่องปรุงรสที่อาจกลบกลิ่นและรสชาติดีๆ ของเนื้อไปจนหมด



ความพิเศษอย่างที่สาม!! …สุดยอดซอสสูตรพิเศษ ชีสชั้นดี และขนมปังอบใหม่ๆ จากเตาของร้าน

การทำเบอร์เกอร์ให้อร่อยนอกจากจะต้องใส่ใจกับเนื้อบดแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะหลงลืมไม่ได้ คือ ขนมปัง และซอสพิเศษต่างๆ ที่ราดลงบนเนื้อเบอร์เกอร์ ซึ่งที่ Burger Factory พิเศษตรงที่นวดขนมปังเอง อบขนมปังเอง ขนมปังของเขาจึงกรอบนอกนุ่มใน และหอมกลิ่นขนมปังอบใหม่สุดๆ แถมด้วยซอสราดเบอร์เกอร์ ที่ไม่ใช่มีแค่ซอสมะเขือเทศกับมัสตาร์ดแล้วทุกอย่างจะจบ เพราะที่นี่ยังมี Caramelized Onion ที่เป็นการเอาหอมหัวใหญ่ไปผัดกับครีมจนได้ครีมคาราเมลหัวหอม รสชาติหวานๆ มันๆ ส่งเสริมรสชาติของหมูบดเนื้อแน่นๆ ของ "The Petty Melt" (ราคา 300 บาท) ที่มีรสชาติออกเค็มนิดๆ ให้เข้มข้นกลมกล่อมอร่อยลงตัวยิ่งขึ้น และยังมีซอส BF หรือ Burger Factory Sauce ที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง เป็นสูตรเฉพาะที่มีแต่ที่นี่เท่าน้ั้น และส่วนผสมของสูตรก็เป็นความลับอีกด้วยนะ ซึ่งซอส BF นี้ จะมาปรากฏตัวอยู่ในเมนู "The Factory Burger" (ราคา 290 บาท) ที่เป็น Signature  ของร้าน และเป็นเมนูที่เหมาะกับคนที่เป็น Cheese Lover มากๆ เพราะมีกรูแยร์ชีสอันโด่งดังของสวิสเซอร์แลนด์ (Gruyere Cheese) และเกาด้าชีส ชีสที่มีชื่อเสียงที่สุดของเนเธอร์แลนด์ (Gouda Cheese) งานนี้ลืมไปได้เลยแค่เชดด้า ชีสธรรมดาๆ เพราะชีสขั้นเทพทั้งสองอย่างนี้ ให้รสชาติความเป็นนมเนยได้เข้มข้นมากๆ จนลืมความอ้วนไปเลย แถมด้วยเบคอนทอดกรอบๆ ที่วางมาเป็นรูปกากบาท และ Curly Fries ที่เป็นเอกลักษณ์อีกสองอย่างของร้านนี้ เป็นจานที่ครบถ้วนและจบในตัวจริงๆ

http://www.wongnai.com/articles/burger-factory
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



ความพิเศษอย่างที่สี่!!!...ไม่ชอบเบอร์เกอร์เนื้อ ก็มีตัวเลือกอื่นที่เด็ดไม่แพ้กัน

แต่กับคนที่ไม่ชอบอะไรหนักๆ อย่างเบอร์เกอร์เนื้อสัตว์ใหญ่อย่างวัวและหมู หรือติดข้อห้ามทางศาสนา ก็สามารถสั่ง "Grilled Salmon Burger" (ราคา 300 บาท) เบอร์เกอร์เนื้อปลาแซลมอนอย่างดีที่ใช้เนื้อปลาแซลมอนร้อยเปอร์ เซนต์ ปรุงรสด้วยมะนาว (ไลม์) นิดหน่อย เพื่อดับกลิ่นคาวของปลา ก่อนจะเอาไปบดแบบไม่ละเอียดจนเกินไป แล้วค่อยเอามาปั้นให้เป็นก้อนหนานุ่ม ย่างจนผิวด้านนอกเกรียมกำลังดี แล้วโปะทาร์ทาซอส หัวหอม และดิลลงไป รองด้านล่างด้วยผักร็อกเก็ต เป็นเบอร์เกอร์เพื่อสุขภาพที่ได้รสชาติเน้นๆ กับเนื้อปลาแน่นๆ  ในแบบที่เบอร์เกอร์ปลาตามฟาสต์ฟู้ดไม่มีทางให้ได้แบบนี้

หรือถ้าไม่อยากกินเบอร์เกอร์ก็สามารถสั่ง "Grilled Salmon Salad" (ราคา 225 บาท) สเต๊กปลาแซลมอนที่เอาไปหมักกับพริกไทยแล้วกริลล์จนสุกได้ที่ กินคู่กับกรีนสลัดที่ประกอบไปด้วย กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค มะกองดำดอง และหอมหัวใหญ่ ราดด้วยน้ำส้มบัลซามิก เป็นจานเบาๆ ที่กินได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องห่วงเรื่องแคลอรี่มากนัก

หรือจะลองเมนู "Crispy Sticky Wing" (ราคา 165 บาท) ไก่ทอดกรอบๆ ที่ผ่านกรรมวิธีการทอดอันสลับซับซ้อนพอดู ด้วยการทอด 3 นาที แล้วยกขึ้นมาพัก 2 นาที แลัวเอาลงไปทอดอีก 3 นาที ทำซ้ำอย่างนี้ถึง 3 ครั้ง เพื่อให้เนื้อข้างในสุกอย่างทั่วถึง โดยที่หนังไก่ไม่ไหม้เกรียม แล้วก็ราดซอสพริกกระเทียมหวานเผ็ดๆ เค็มๆ เป็นเมนูที่แทะเล่นเพลินดี



ความพิเศษอย่างที่ห้า!!!...เครื่องดื่มแหวกแนว แต่อร่อยชื่นใจแก้กระหายและดับเลี่ยน

และถ้ากินเบอร์เกอร์แล้วรู้สึกฝืดคอ อยากจะขอสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาช่วยทำให้ลื่นคอขึ้น คงต้องขอบอกว่า เรื่องเครื่องดื่มนั้น ที่ Burger Factory ก็ไม่เป็นรองใครเหมือนกัน แถมยังน่าสนใจมากๆ ตรงความช่างครีเอตและความสามารถในการจับคู่เครื่องดื่มที่ดูไม่ น่าจะเข้ากันได้ มาผสมให้เข้ากันได้อย่างลงตัว อยากรู้ว่าเป็นยังไง ก็ต้องลองสั่ง "Summer Brew" (ราคา 85 บาท) ที่เอารูทเบียร์เบสิคๆ แสนจะธรรมดาหาได้ทั่วไป มาผสมกับพีช ไซรัปหอมกลิ่นพีช  และหวานอมเปรี้ยว แล้วขยี้ด้วยใบมินท์ให้หอมฟุ้ง เป็นเครื่องดื่มที่อร่อยลงตัว แม้จะมีเครื่องหมายเควสชั่น มาร์ค แปะอยู่บนหน้าผาก ตอนได้ยินคำว่า "รูทเบียร์" หรือ "ซาสี่" ที่หลายๆ คนอาจจะคิดว่ากลิ่นแรงเหมือนยาหม่อง แต่พอจับมาเข้าคู่กับน้ำเชื่อมพีชและใบมินท์แล้ว กลับได้รสชาติที่แปลกใหม่ และอร่อยลงตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ

หรือแก้วถัดมา อย่าง "Frozen Mojito Mocktail" (ราคา 120 บาท) เครื่องดื่มสีเขียวสดใสที่คงถูกใจสาวๆ เพราะรสชาติเปรี้ยวแบบเข้มๆ จากน้ำมะนาว และชิ้นมะนาวที่ใส่ลงไปทั้งเปลือกเพื่อให้เกิดความหอมจากน้ำมัน บนผิวมะนาว ผสานกับกลิ่นสดชื่นของใบมินท์ และความหวานจากน้ำเชื่อม ที่ตัดกันฉับกับเกลือที่โรยอยู่บนปากแก้ว ให้รสชาติสดชื่นเหมือนตื่นขึ้นมาอยู่ริมทะเลอย่างไรอย่างนั้น

http://www.wongnai.com/articles/burger-factory
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

(b9)



ความพิเศษอย่างที่หก!!!... ขนมอร่อยเข้มข้นอย่างเหลือเชื่อ

เมื่อกินของคาวไปแล้ว จะไม่ต่อด้วยของหวาน ก็ดูเหมือนยังไม่จบ ซึ่งด้วยความติสท์ของร้าน เมนูของหวานจึงมีให้เลือกอยู่แค่เพียงเมนูเดียวเท่านั้น คือ "Chocolate Lava" (ราคา 200 บาท) ที่แม้จะเป็นเพียงแค่หญิงสาวหนึ่งเดียวในร้าน ท่ามกลางพี่ๆ เบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ แต่ก็เป็นของหวานที่อร่อยสุดใจขาดดิ้น และเป็นขนมที่เชฟของร้านลงมือทำเองในปริมาณต่อวันไม่มากด้วย ฉะนั้นถ้าบางทีไป แล้วมันหมด ก็ไม่ต้องสงสัย ของดีมีน้อย ต้องรีบๆ ไป ที่อร่อยก็เพราะด้านนอกของขนมจะ
กรอบนิดๆ แต่พอลาวาซอสช็อกโกแลตแตกตัวออกมาเท่านั้นแหละ ความฉ่ำเยิ้มของซอสที่มีทั้งรสหวานมันขมเข้มข้น ก็ทำให้ตักกินเอาๆ จนแทบจะปาดกินให้เกลี้ยงจานไปเสียเลย อร่อยจนลืมช็อกโกแลต ลาวา ของร้านอื่นไปเลย

มาที่ Burger Factory อาจจะจ่ายแพงกว่าเบอร์เกอร์ทั่วไปนิดหน่อย แต่รับรองว่าจะได้เบอร์เกอร์ และไซด์ดิชคุณภาพสมกับราคาที่จ่ายไปอย่างแน่นอน แถมด้วยบรรยากาศการตกแต่งร้านที่น่านั่ง ด้วยโทนสีอบอุ่น และเพลงเพราะๆ ที่เปิดคลอไปตลอดเวลา เหมือนจะเชื้อเชิญให้ลูกค้าอยู่ต่อนานๆ แล้วเพลิดเพลินไปกับเบอร์เกอร์จานอร่อยของตัวเองโดยไม่ต้องรีบร ้อนลุกไปไหน....ปล่อยรถติดๆ บนถนนไว้เบื้องหลังดีกว่า



Burger Factory

ที่อยู่: เอกมัยช้อปปิ้ง มอลล์ ปากซอยเอกมัย 10 (ข้างๆ Health Land เยื้องสบายใจไก่ย่าง) คลองเตยเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพมหานคร 10110

โทร : 02-714-4249

http://www.facebook.com/theburgerfactory

http://www.wongnai.com/articles/burger-factory
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host