การขับรถลุยน้ำ เพิ่งเจอมากับตัว

punpae

พอดีที่บ้านน้ำท่วมหนัก ไอ้เราก็ต้องสัญจรบนท้องถนน
แล้วได้มีโอกาสพาน้องตี้ขาวลงเล่นน้ำครั้งแรก ตอนแรกก็ไม่อยากจะลุยหรอก
เพราะไม่เคยขับรถลุยน้ำมาก่อน ก็ลังเลอยู่ซักพัก แต่ อปพร บอกว่าผ่านได้เลยลุยมันซะเลย
ผ่านมาได้ 2 ด่าน พอถึงด่านที่ 3 เครื่องดับซะงั้น พอสตาร์ทเครื่องใหม่โชคดีที่ติดเหมือนเดิม
แล้วลุยไปต่อ บีบแตรให้พี่ๆ อปพร มาช่วยเข็น เพราะรถลอยตามน้ำแล้ว ก็กลัวว่าน้ำจะพัดไปทั้งรถทั้งคน
โชคดีที่ผ่านมาได้ วันที่ 2/4/54 ก็เอาเข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 10,000 โลทั้งที่ยังไม่ถึง
เพราะโดนน้ำเล่นงานมาเลยเปลี่ยนซะก่อน และมีอีกหลายอย่างตามรายการของศูนย์เค้า
สรุปแล้วเข้าศูนย์วันนั้นจ่ายไป พันกว่าบาท ได้ไฟตัดหมอกใหม่ด้วยเพราะชุดเก่าน้ำเล่นงานหมดเลย

แล้วไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการขับรถลุยน้ำมาเผื่อโอกาสหน้าได้ลุยอีก และจะได้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ

1.ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาดในขณะขับรถลุยน้ำลึก หรือแม้จะน้ำตื้นก็ตามเพราะ สาเหตุที่รถดับ
ส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ เพราะว่า เมื่อเราเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน และอย่าลืมสิครับ
ว่าเรากำลังลุยน้ำลึก อย่างที่ผมเจอวันนี้ก็คิดว่า น่าจะเกินระดับพัดลม
เพราะฉะนั้น ถ้าเราขืนเปิดพัดลมละก็สิ่งที่จะตามมาคือ
ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง แล้วคุณลองคิดดูว่า อะไรจะเกิดขึ้น
นั่นก็คือ เครื่องจะดับเอาง่าย ๆ หรือ ถ้าโชคดี หรือโชคร้าย ถ้าเครื่องไม่ดับ
ใบพัดก็จะหมุน ๆ ซึ่ง เราก็ไม่รู้หรอกว่า ขณะที่เราลุยน้ำ อะไรมันจะลอยมาบ้าง มันมีสารพัด
ไม่ว่าจะเป็น ขยะ กิ่งไม้ ไม้หน้าสาม ถุงพลาสติกรองเท้า ซึ่ง สิ่งของพวกนี้
มันมีโอกาสที่จะเข้ามาในห้องเครื่องแล้วโดนใบพัดตัดจนใบพัดหักถ้าใบพัดหัก แน่นอนว่า
เราขับรถต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะระบบระบายความร้อนจะมีปัญหา
"ตอนที่ผมลุยน้ำวันนั้นเปิดแอร์อยู่ครับ"

2.ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดาก็ใช้ประมาณเกียร์ 2 หรือสำหรับออโต้ ก็ใช้เกียร์ Lก็ได้ครับ
รวมถึงการขับขี่ที่มีความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ
อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น
"ตอนที่ผมลุยน้ำวันนั้นใช้เกียร์ 1 ครับ น้องตี้ S MT"

3. ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆเพราะเห็นผู้ขับขี่หลาย ๆ คนมักจะเร่งเครื่องแรง ๆ
เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะกลัวเครื่องดับเพราะกลัวน้ำเข้าท่อไอเสีย ซึ่งจริง ๆ
แล้วมันเป็นความคิดที่ผิดมาก ๆแท้ที่จริงแล้ว การเร่งเครื่องยิ่งทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น
เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้นใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน
และสิ่งที่จะตามมาก็เหมือนกับข้อ 1 ครับไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสียครับ
เพราะต่อให้น้ำจะท่วมท่อไอเสียแล้วคุณสตาร์ทรถอยู่ที่รอบเดินเบา
แรงดันที่ออกมาเพียงพอที่จะดันน้ำออกมาอย่างสบาย ๆ ต่อให้คุณจอดรถทิ้งไว้จนน้ำท่วมท่อไอเสียก็ตาม
เมื่อคุณเข้าไปในรถ แล้วสตาร์ทรถ
ผม กล้าพูดได้เลย ทีเดียวติดครับ (กรณีนี้ที่ผมกล้าพูดว่า รถสามารถสตาร์ทติด คือ น้ำท่วม แค่ท่วมท่อไอเสียนะครับ ไม่ใช่ท่วมฝากระโปรงนะครับ)
"วันนั้นผมเร่งเต็มที่เลยครับ แล้วเลี้ยงคลัทซ์ไว้ เพราะกลัวเครื่องจะดับเหมื่อนที่พี่เค้าว่านี่ละครับ"

ขอบคุณพี่ที่ให้ข้อมูลนะครับ พอดีผม COPY ลง WORD ไว้แล้ว PRINT ออกมา
จำไม่ได้ว่าเอามาจาก WEB ไหน หวังว่าคงให้อภัยนะครับ เพื่อประโยชน์ของคนที่รักรถด้วยกัน

atiwat04

Thank a lots กับข้อมูลดีๆครับ

marker1984

ขอบคุนคับ วันนั้นลุยมาเหมือนกันที่ลพบุรีพอดีกลับบ้านครับ ค่อยๆคลานไปเลยคับกลัวเครื่องดับอย่างว่า แต่ลืมปิดแอร์คับ คงจะไม่เปนรัยนะ(สาธุ)

direk44

ลุยมาแล้วครับ น้ำเข้า ห้องโดยสารเลย

นอกจากตากแดดแล้วมีใครแนะนำบ้างป่าวครับ รถยังไม่แห้งงงง

JUNIOR_ZX

ขับระวังๆ กันครับ ช่วงนี้น้ำท่วมหลายพื้นที่

nuzaaboy

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
sbobet คาสิโน ผลบอล 7m คาสิโนออนไลน์ แทงบอล คาสิโน sbobet แทงบอล คาสิโนออนไลน์ livescore 3m ibc holiday m8bet gclub ibcbet พนันบอล เว็บเดิมพัน mix8888 พนันออนไลน์ ฟุตบอลฟุตบอลออนไลน์ หวยไทยออนไลน์ บาคาร่า ทีเด็ด แทงบอลออนไลน์ sbo บอลชุด บอลสเต็ป

mojo13

ติดตะแกงกันหินดีดหม้อน้ำก็ช่วยได้นะครับ เพราะเศษขยะต่างๆที่ลอยตามน้ำมา จะเข้าไปในห้องเครื่องไม่ได้

tanad

มาคอนเฟริ์มว่าใช้ได้จริง เมื่อวานเข้าซอยลัีดหน้าที่ทำงานไปออกเมเจอร์รัชโย น้ำท่วมท่อไอเสียเห็นๆ เพราะขับตาม Civic เห็นแล้วใจเสียกลัวจะดับ ทำตามขั้นตอนที่บอกวันนี้สตาท์ติดสบาย แต่พรมเปียกเนี่ยเศร้าๆ

Monrada

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

aiaw

ขอบคุณนะครับความรูู้้ดีๆ