"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่
ข้อมูลนี้เยี่ยมมาก,เคยมีร้านแก๊สอธิบายเหมือนกัน  ขอบคุณครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

การตัดปั้มติ๊กนั้นที่ช่างส่วนใหญ่ไม่ได้ตัดกันก็เพราะว่าจะมีอาการกระตุกและสตาร์ทติดยากตามมาครับ เพราะว่าระบบecuของแก๊สไม่ได้ออกแบบมาครับถ้าเราไม่ตัดปั้มติ๊กการเปลี่ยนเชื้อเพลิงระหว่างแก๊สกับน้ำมันจะราบรื่นไม่กระตุกส่วนข้อเสียมันก็มีครับถ้าขณะขับขี่ในโหมดแก๊สแล้วปั้มติ๊กยังทำงานอยู่ถึงแม้ว่าจจะมีระบบระบายแรงดันและควบคุมแรงดันเกินถ้าเกิดสายน้ำมันแตกขึ้นมาในห้องเครื่องยนต์แล้วฟุ้งกระจายถ้าไม่มีประกายไฟก็ไม่เป็นไรครับแต่ถ้าเกิดมีประกายไฟมันก็ยุ่ง ถ้าเราใช้โหมดน้ำมันเมื่อท่อแตกเราก็จะรู้ครับเครื่องจะสั่นและดับเองหลังจากเครื่องยนต์ดับecuเครื่องยนต์ก็จะตัดการทำงานของปั้มติ๊ก แต่ถ้าเราอยู่ในโหมดแก๊สเครื่องมันไม่ดับนะครับท่อน้ำมันแตกเราก็ไม่รู้เรื่องครับนอกจากจะได้กลิ่นของน้ำมันเข้ามาห้องโดยสารครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ขอบคุณครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ข้อมูลดีๆแบบนี้ ... ขอบคุณมากครับ ...
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ขอบพระคุณมากครับ ได้ความรู้มากเลย แล้วจะพยามยามดูแลให้ใช้งานได้ดีๆต่อไปครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

ขอบคุณครับที่มาแชร์ความรู้ดีๆครับ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com
รับให้คำปรึกษาการเซ็ทโบ

TOP

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 5/10/2010 17:22 โดย baikancha

สรุปคือ
ความดันในท่อน้ำมันจะถูกรักษาให้มีความดันสูงๆ ต่ำๆ ตามความดันในท่อไอดี ซึ่งก็คือการเหยียบคันเร่งนั่นเอง ถ้ารถวิ่งเร็วๆ ความดันน้ำมันก็จะสูง (ซึ่งจะไม่เกิน 2.55 bar) ถ้ารถวิ่งช้า หรือเครื่องเดินเบา ความดันของน้ำมันก็จะถูกควบคุมให้ต่ำลง (น้อยกว่า 2 bar) ดังนั้น ขณะที่รถวิ่งด้วย GAS ถ้าไม่ตัดปั้มติ๊ก ตัวควบคุมความดัน(Pressure regulator) ก็จะยังทำงานอยู่เหมือนเดิม เพราะ เรายังเหยีบคันเร่งเหมือนเดิม และความดันในท่อไอดีก็ยังมีเหมือนเดิม น้ำมันจากปั้มถูกปั้มมา และจะถูกควบคุมให้สูงๆต่ำๆ เหมือนขณะที่ใช้น้ำมันทุกประการ ไม่ได้อยู่ที่ความดันสูงตลอดเวลาอย่างที่คิด น้ำมันก็จะไหลหมุนเวียนผ่าน ปั้มติ๊ก, ท่อ, รางหัวฉีดน้ำมัน และกลับถัง ถ้าตัดปั้มติ๊ก ปั้มจะหยุดทำงานแต่น้ำมันจะถูกกักไว้ด้วย วาวล์กันกลับที่ตัวปั้ม แต่ ตัวควบคุมความดันก็ยังทำหน้าที่ มันเหมือนเดิม คือเปิดให้น้ำมันไหลกลับถัง  ถ้าความดันในท่อไอดีเปลี่ยนไป ทำให้ความดันในรางหัวฉีดน้ำมันต่ำลง(เรื่อยๆ)เพราะปั้มถูกตัดไปแล้ว ถ้าวิ่งระยะทางไกลๆทำให้ความร้อนในห้องเครื่องสูงขึ้น รางหัวฉีดน้ำมัน ท่อน้ำมันในห้องเครื่อง(บางส่วน) มีความร้อนสูงขึ้น น้ำมันบางส่วนที่ค้างอยู่ในท่อ ก็จะถูกต้มให้มีอุณหภูมิสูงขึ้น  เพราะน้ำมันหยุดไหลจากความดันที่ลดต่ำลง แต่จะไม่ทำให้ความดันสูงขึ้นได้ เพราะ ตัว ควบคุมความดันยังทำงานอยู่แต่สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้คือความร้อนที่สะสมอยู่ กับรางหัวฉีด และท่อน้ำมันบางส่วน ซึ่งจะมีน้ำมันร้อนๆ ที่ค้างอยู่ข้างในนั่นเอง ซึ่งคงจะไม่ทำให้ท่ออ่อนแตกหรือแห้งกรอบได้ ดังนั้นไม่ว่าท่านใดจะตัดหรือไม่ตัดปั้มติ๊กก็ตาม คงไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ แต่ ถ้า ท่อน้ำมัน,สายอ่อนน้ำมันที่เสื่อมตามสภาพและอายุการใช้งาน และขาดการบำรุงรักษาที่ดี ขาการตรวจเช็ค(ด้วยตัวท่านเอง)อย่างสม่ำเสมอ นั่นแหละท่านกำลังทำให้เกิดความเสี่ยงแล้ว ท่านที่ตัดปั้มไปแล้วอย่างน้อยท่านก็ช่วยยืดอายุของปั้ม แต่อย่าตัดขาดครับ ต้องใช้งานบ้างครับ ถ้าไม่ใช้งานเลยก็เสียครับ ท่านที่ยังไม่ได้ตัดปั้ม อย่างน้อยท่านก็ยังไม่เสียเงินค่าแรงในการตัด ข้อมูลทั้งหมดนี้หวังว่าคงเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจนะครับ ส่วนตัวผมเองไม่ตัดครับ ให้มันทำงานของมันไป ไม่กลัวปั้มจะพังเร็ว เพราะเชื่อการ design ว่าทำมาให้มั่นใจแล้วแต่ผมกลัวสิ่งที่คาดเดาได้ยากจากสิ่งที่นอกหนือการ design อย่างน้อยขณะที่เราเปลี่ยนจาก แก๊สเป็นน้ำมัน จะได้ smooth ครับ



ข้อมูล จากหนังสือ เครื่องยนต์หัวฉีด EFI โดย ....นพดล เวชวิฐาน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com
++++    สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ.........การค้นหาโลกที่เป็นของเรา ........ชีวิตจะมีความหมายก็เพียงว่าเรา..........ค้นพบโลกใบนั้น     ++++

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host