"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่
รถแบตหมด เปลี่ยนเองได้

ถ้าไม่อยากให้รถคุณจอดดับอยู่กลางทางควรเช็กแบตเตอรี่ให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณ
หากต้องไปจอดดับอยู่ในที่เปลี่ยวถึงแม้ไม่เกิดอันตรายก็ต้องมีเสียวกันบ้างโดยเฉพาะคุณผู้หญิง
หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นคงลำบากไม่น้อย  มีวิธีเปลี่ยน แบตเตอรี่ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง


แบตเตอรี่รถยนต์  โดยทั่วไปมี 2 ประเภทหลัก คือ

แบตเตอรี่ “แบบเปียก” ที่ต้องหมั่นเติมน้ำกลั่นชดเชยปริมาณที่สูญเสียไปเพื่อไม่ให้ระดับน้ำกลั่นต่ำกว่าเส้นบอกระดับล่าง
(LOWER LEVEL)
แบตเตอรี่ “แบบแห้ง” ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ปัจจุบันนิยมใช้ใน รถเก๋ง รถกระบะ ซึ่งมีราคาสูงกว่าแบบแรก
     ทั้ง 2 ทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟไปที่ระบบจุดระเบิดในขณะที่สตาร์ทรถยนต์ เพื่อป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆ
ภายในระบบไฟฟ้ารถยนต์ ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งพลังงานให้กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง
เช่น ระบบไฟส่องสว่าง แอร์ วิทยุเครื่องเสียง



     อาการแบตเตอรี่เสื่อม

     แบตเตอรี่เก็บไฟไม่อยู่รถจะสตาร์ทติดยาก บางครั้งสตาร์ทไม่ติดเพราะแบตเตอรรี่หมดอายุการใช้งานไปแล้ว
ต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ทันที การเลือกซื้อ “แบตเตอรี่” ไม่ควรที่จะลดขนาดของแอมป์ลงโดยเด็ดขาด
แต่สามารถเลือกที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นได้โดยประมาณ 10-30 แอมป์จากแบตเตอรี่ของเดิม
โดยคุณสามารถเปลี่ยนแบตเตอรรี่เองได้ง่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้



     เตรียมอุปกรณ์

     ประแจไขเบอร์ 10 / ถุงมือยาง / สเปรย์สำหรับฉีดแบตเตอรี่ (ถ้ามี) / แบตเตอรี่ใหม่
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

03 มองให้ละเอียดก่อนใช้ความเร็ว

   หลายครั้งโดยเฉพาะในต่างจังหวัดนั้น ถนนจะไร้ไฟส่องทาง และเมื่อความมืดเข้ามาเยือนนั้น มันก็ทำให้การสัญจรยิ่งอันตรายมากขึ้น
และหลายครั้งความประมาทของอุบัติเหตุเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และความมืดถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการขับขี่ ดังนั้น
พยายามมองให้ดี ถ้าไม่มีรถสวนไฟสูงก็สามารถช่วยได้ เช่นเดียวกับไฟตัดหมอก ที่ช่วยเพิ่มระยะการมองเห็นได้
โดยเฉพาะการขับขี่ในต่างจังหวัด


04 ระแวดระวังตามแยกต่างๆ

   ทางตัดและทางแยก ถือเป็นจุดสำคัญในการขับขี่ยามค่ำคืน เนื่องจากเมื่อการจราจรเบาบางจุดเหล่านี้นั้นมักจะกลายเป็นไฟเหลืองกระพริบ
แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนใจ อันที่จริงไฟเหลืองที่ติดแทนการปล่อยสัญญาณไฟ คือการบอกให้ระวัง และจุดตัดต่างๆเหล่านี้
มันกลายเป็นจุดเกิดเหตุที่บ่อยๆพอๆ กับช่วงทางโค้งอันตราย ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการชะลอความเร็ว จะดีกว่า



05 เคารพกฏจราจรอย่าเคร่งครัด

    ยิ่งค่ำคืน แม้ถนนจะโล่งแต่สิ่งที่ละเลยไม่ได้คิอเรื่องของกฏจราจร หลายคนมักจะละเลยการปฏิบัติตามกฏทำให้บ่อยครั้งเป็นต้นเหตุ
ของอุบัติเหตุ หรือไม่ก็เกิดอุบัติเหตุเสียเอง ดังนั้นจำไว้ว่าเคารพกฏให้มากที่สุด เพราะหากคุณไร้ซึ่งกฏโอกาสเสี่ยงก็จะเยอะขึ้นนั่นเอง


    แน่นอนว่าทั้ง 5 ข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องราวพื้นฐานของการขับรถ แต่เมื่อคุณขับรถในยามค่ำคืนการปฏิบัติตามสิ่งที่ควรจะปฏิบัติทั้ง 5
ก็ทำให้คุณปลอดภัยขึ้นไม่มากก็น้อย
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

5 ทริค ขับรถยามราตรี จำไว้ให้ดีเพราะมันช่วยคุณได้

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนจะมีข่าวคราวไม่สู้ดีเกี่ยวกับท้องถนนออกมาพอสมควร โดยเฉพาะอุบัติเหตุ
ที่หนึ่งในนั้นเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ และน่าจะประกอบกับประสบการณ์ที่ยังไม่มากในการขับขี่ทำให้เป็นเรื่องร้ายแรง
จนเรานึกถึงว่าน่าจะมีอีกหลายคนที่ยังด้อยประสบการณ์และความรู้ในการขับขี่นั้นน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย

หลายคนที่เคยขับรถยนต์คงจะไม่ค่อยชอบใจนักกับการขับรถในยามค่ำคืนโดยเฉพาะในยามดึกสงัด
เงียบสงบที่อาจจะชวนจิตหลอนได้ระหว่างทางแต่ถ้าคุณจะขับรถในยามค่ำคืน มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก
และเรามีเทคนิคที่ช่วยให้คุณขับรถในยามราตรีได้อย่างปลอดภัย

01 รู้สถานะตัวเองก่อนขับ



เราไม่ได้บอกให้คุณตั้ง Status แต่การรู้ว่าเรากำลังเป็นอย่างไรก่อนขึ้นขับรถในยามค่ำคืนนั้นคือเรื่องสำคัญ โดยมาก
สิ่งที่เลี่ยงได้ยากสำหรับการขับรถในยามค่ำคืน คือการเหนื่อยล้า บรรยากาศที่เงียบสงบนั้นชวนหลายคน "หลับใน"
ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสงสัย และถ้าคุณรู้สถานะตัวเองว่า เหนื่อย เพลีย อ่อนล้า ก็ทำให้เราหาทางแก้
เช่นการหาเพลงคึกๆมันส์ๆ ฟัง ช่วยให้กระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ไม่มากก็น้อย หรือถ้าไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ก็จอดข้างทาง
พักผ่อนสักนิด โดยเฉพาะ หากคุณเดินทางไกล ช่วยลดความเสี่ยงได้

02 อย่าเข้าใกล้รถที่มีพฤติกรรมแปลกๆ



เมื่อคุณเดินทางยามค่ำคืน สิ่งที่ควรจำคือ แม้คุณจะพร้อม แต่อย่างวางใจในเพื่อนร่วมทาง เพราะเพื่อนร่วมทางนี่แหละที่สำคัญที่สุด
และบ่อยครั้งที่อุบัติเหตุนั้นมีเพื่อนร่วมทางเป็นส่วนสำคัญ

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเวลาขับรถในยามค่ำคืนนั้น คงไม่พ้นการที่ต้องระแวดระวัง โดยเฉพาะรถยนต์ที่เดินทางไปกับเรา
ซึ่งบางครั้งมีพฤติกรรมแปลกๆ เช่นขับเร็วผิดปกติ หรือมีอาการเลื้อย-ส่าย ขับรถไม่ตรงเลน/กินเลนและ เด็กแว้นซ์
จงพึงระวังและทางที่ดี ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ด้านหน้า ให้บอกเจ้าหน้าที่ เพราะคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งช่วยให้ถนนปลอดภัยมากขึ้นก็ได้
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

รถพีพีวีดัมพ์ราคาแย่งกำลังซื้อ

5 ยักษ์ใหญ่ค่ายรถเปิดศึกพีพีวี งัดกลยุทธ์ราคาสู้ ปลุกกำลังซื้อ ปลายปีคึกรอบใหม่ก่อนปรับภาษี

นายจรวย ขันมณี ประธานกรรมการบริหารบริษัท ยานยนต์ สแควร์ กรุ๊ป ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล แกรนด์ มอเตอร์ เซลส์ 2015 (บิ๊กมอเตอร์เซลส์) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดกระบะดัดแปลง (พีพีวี)เป็นตลาดที่น่าจับตามองมากที่สุด
เนื่องจาก 5 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ส่งรถพีพีวีลงสู่ตลาดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ได้แก่ เชฟโรเลตเทรลเบเซอร์, อีซูซุ มิว-เอ็กซ์,
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่, โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ และล่าสุดมิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต ใหม่

ทั้งนี้ จากการประเมินคาดว่าเป็นเพราะตลาดรถพีพีวี เป็นตลาดที่เจาะกลุ่มคนกำลังซื้อสูง ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจไม่มากนัก
จึงมีความเป็นไปได้ว่าค่ายรถยนรายใหญ่จึงหันมาให้ความสำคัญกับตลาดนี้ แต่ทุกค่ายก็ต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือดโดยเฉพาะค่ายที่
เพิ่งเปิดตัวล่าสุดงัดกลยุทธ์ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งเป็นหนึ่งในจุดขายที่จะดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมาย


นายเทะสึโระ อาอิคาวะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2558 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ตใหม่ในไทยเป็นครั้งแรกของโลก ราคาเริ่มต้นที่ 1.138-1.450 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายรุ่นนี้ในไทยอยู่ที่ 7,000 คัน และคาดว่าจะส่งมอบได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2558 จนกระทั่งถึงมี.ค. 2559
และจะเริ่มส่งออกได้ในช่วงปลายปีนี้ไปยังออสเตรเลีย, อาเซียน, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา, อเมริกาเหนือ และ รัสเซีย

นอกจากนี้ ยังมองว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ครึ่งปีหลังจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ได้รับสัญญาณบวกที่แน่ชัด
แต่หวังว่าการเปิดตัวรถยนต์รุ่นดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นตลาดให้มีความคึกคักมากขึ้น.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/auto/news/379673
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

4. จอดไกลหน่อยถือว่าได้ออกกำลังกาย

     แน่นอนว่าใครก็อยากจอดรถใกล้กับสถานที่ที่กำลังจะไปให้มากที่สุด ซึ่งก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญความแออัดของที่จอดรถด้วยเช่นกัน ทางที่ดีหากสามารถนำรถไปจอดไกลหน่อย แต่ได้ที่จอดปลอดภัย สะดวกสบาย ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี แถมยังได้สุขภาพที่ดีจากการเดินอีกด้วย



     5. ไม่จอดรถในที่ห้ามจอด

     ควรพึงระลึกเสมอว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการจอดรถในที่ห้ามจอด เนื่องจากอาจกีดขวางการจราจร ส่งผลให้การจราจรติดขัดได้ แบบนี้ไม่รู้จะได้บุญหรือเปล่านะเออ
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

เทคนิค 5 ข้อจอดรถในวันทำบุญให้ปลอดภัย?

  ในช่วงวันสำคัญทางพุทธศาสนาแบบนี้ หลายคนต่างก็มีแผนเดินทางไปร่วมทำบุญตามวัดหรือสถานที่สำคัญต่างๆกันอย่างคับคั่ง
หากใครขับรถไปก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอกับปัญหาการจอดรถ ไม่ว่าจะที่จอดเต็มบ้าง, รถแน่นจนเกิดเฉี่ยวชนกันบ้าง
หรือซ้ำร้ายอาจโดนทุบกระจกฉกชิงของมีค่าไปก็ได้

   จึงขอแนะนำ 5 เทคนิคการจอดรถในวันสำคัญมาฝากกันครับ

     1. จอดรถในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ

     เข้าใจดีว่าลำพังแค่จะหาที่จอดรถว่างๆ ในช่วงกลางค่ำกลางคืนก็ลำบากพออยู่แล้ว แต่หากเลือกได้ก็ควรจอดรถในที่ที่มีแสงสว่าง
เพียงพอ เพราะอย่างน้อยโอกาสเสี่ยงที่รถของคุณจะถูกทำมิดีมิร้ายก็มีน้อยกว่า เช่น การโจรกรรมหรือการถูกเชี่ยวชน เป็นต้น



     2. ไม่ทิ้งของมีค่าไว้ในรถ

     ไม่ว่ารถของคุณผู้อ่านจะติดฟิล์มกรองแสงดำมืดขนาดไหน ก็ไม่ควรทิ้งของมีค่าไว้บนเบาะหรือจุดที่เห็นได้ชัดเจนแม้แต่ใต้เบาะนั่ง
เพราะหากโจรนำไฟฉายมาส่องก็สามารถมองเห็นภายในรถได้อย่างง่ายดาย ทางที่ดีควรเก็บของมีค่าไว้ในช่องเก็บของ
หรือห้องเก็บสัมภาระท้ายรถไปเลยจะดีกว่า



     3. ดูให้แน่ใจว่าไม่จอดขวางใคร

     หลังจากได้ที่จอดรถแล้ว ควรตรวจสอบให้ดีว่าไม่ได้จอดรถขวางทางเข้า-ออกรถคันอื่น เพราะบางครั้งเห็นที่จอดรถว่างๆ
แต่แท้จริงแล้วอาจเป็นทางสำหรับรถผ่านก็ได้ เนื่องจากที่จอดรถบางแห่งไม่มีเส้นแบ่งถนนชัดเจนตายตัว
จึงควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

แต่หากจำเป็นต้องจอดขวาง ก็อย่าลืมปลดเกียร์ว่าง ไม่ดึงเบรกมือ เพื่อให้คนอื่นสามารถเข็นได้ยามจำเป็น
มิเช่นนั้นหากถูกมือดีฝากรอยแผลทิ้งไว้ จะหาว่าไม่เตือน!
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

4. อย่าประมาทฝนตกปอยๆ

     แม้ว่าฝนจะเพิ่งตกใหม่ๆหรือเพิ่งหยุดไปก็ตามที ถนนที่เปียกเพียงเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดการลื่นไถลได้ ดังนั้นจึงควรใช้ความระมัดระวังและความเร็วที่เหมาะสมเช่นกัน อีกทั้งถนนบางสายอาจมีคราบน้ำมันเคลือบอยู่บนผิวถนน ซึ่งจะทำให้ถนนลื่นกว่าปกติด้วย



     5. ไม่ควรหยุดรถบนไหล่ทาง

     การหยุดรถบนไหล่ทางอาจก่อให้เกิดอันตรายจากรถที่ขับอยู่เลนซ้ายได้ เนื่องจากผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วสามารถมองเห็นรถที่จอดอยู่ได้ลำบากขณะฝนตก ทางที่ดีควรค่อยๆ ขับต่อไปโดยใช้ช่องทางซ้าย



     ขอบคุณข้อมูลจาก Goodyear
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

5 เทคนิคขับรถให้ปลอดภัยช่วงหน้าฝน

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการขับรถขณะฝนตกนั้น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าพื้นถนนแห้ง
มีคำแนะนำในการขับขี่ในช่วงหน้าฝนนี้มาฝากกันครับ

1. ใช้ความเร็วและเว้นระยะให้เหมาะสม

     ไม่ควรใช้ความเร็วสูงขณะขับขี่ท่ามกลางสภาพฝนตก เพราะนอกจากทัศนวิสัยจะต่ำกว่าปกติแล้ว
ในกรณีฉุกเฉินที่ต้องเบรกกะทันหัน การหยุดรถจนนิ่งสนิทจำเป็นต้องใช้ระยะทางเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ดังนั้นจึงควรใช้ความเร็วตามสภาพการจราจร และเว้นระยะห่างจากคันหน้าเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ



     2. เปิดไฟหน้ารถ

     การเปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก นอกจากจะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ดียิ่งขึ้น ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถของคุณ
ได้จากระยะไกลอีกด้วย ในกรณีที่ทัศนวิสัยแย่มาก ก็ควรใช้ไฟตัดหมอกควบคู่กันไปด้วย และปิดทันทีเมื่อสภาพฝนเบาบางลง



     3. เช็คสภาพยางรถยนต์

     ดอกยางถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน ดังนั้น หากยางรถยนต์มีสภาพเก่า ดอกยางเหลือน้อย
ก็ควรรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย ซึ่งปกติแล้วดอกยางไม่ควรเหลือน้อยกว่า 2-3 มิลลิเมตร
นอกจากนั้นยังควรเช็คลมยางให้เหมาะสม เพื่อให้หน้าสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนนแนบสนิทมากที่สุด
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

การถนอมยางปัดน้ำฝนที่ดีที่สุดเมื่อต้องจอดรถยนต์ตากแดดกลางที่โล่งแจ้ง คือ ก่อนที่จะออกรถยนต์ออกหลังจาก
จอดตากแดดทุกครั้งให้ยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นมา แล้วนำผ้าหรือกระดาษเช็ดหน้านุ่ม ๆ เช็ดลูบเบา ๆ
ตามความยาวของยางปัดน้ำฝน แล้วจึงไปเช็ดบนกระจกบริเวณที่ยางปัดน้ำฝนแนบอยู่ เพราะบริเวณนั้นจะมีเศษฝุ่นผงเล็ก ๆ
ปลิวมาตกค้างอยู่บนกระจก หากไม่เช็ดออกเมื่อเปิดที่ปัดน้ำฝน ยางปัดน้ำฝนจะกวาดเอาเศษฝุ่นผงหรือเศษทรายเล็ก ๆ นั้น
กดกับกระจกจนยางฉีกเป็นรอยทำให้การปัดน้ำฝนบนกระจกไม่เกลี้ยงได้

     และควรทำความสะอาดยางปัดน้ำฝนด้วยตนเองสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ด้วยการยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นและใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดบิดหมาด
เช็ดรูดไปตามความยาวของยางปัดน้ำฝนในทิศทางเดียว  หากพบร่องรอยการฉีกขาดหรือแข็งกรอบ ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
เพราะหากใช้ต่อไปจะทำให้ปัดน้ำฝนไม่สะอาด และทำให้เกิดเสียงดัง หรือสะดุดขณะปัด หรืออาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบน
กระจกได้อีกด้วย


     หมายเหตุ : ยางปัดน้ำฝนมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี





     ที่มา VoiceTV
ไฟล์แนบ: คุณไม่สามารถดูไฟล์แนบได้ จำเป็นต้อง เข้าสู่ระบบ แต่ถ้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกก็ สมัครสมาชิก ก่อนนะครับ แล้วเรามาร่วมแบ่งปันความสุขกัน
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

จอดรถกลางแดด ยกก้านปัดน้ำฝนช่วยยืดอายุยางจริงหรือ ?

บ่อยครั้งที่มักได้ยินคำแนะนำให้ยกก้านที่ปัดน้ำฝนเวลาจอดรถกลางแดด รวมทั้งเห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ปฎิบัติอย่างนี้
แต่การยกก้านที่ปัดน้ำฝนจะช่วยยืดอายุยางปัดน้ำฝน แต่อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของสปริงยกก้านที่ปัดน้ำฝน

การจอดรถยนต์ตากแดดนานๆ การยกที่ปัดน้ำฝน เพื่อไม่ให้ยางใบปัดสัมผัสแนบอยู่กับกระจกเสื่อมสภาพ
จะช่วยให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพช้าลง แต่การยกก้านที่ปัดน้ำฝนบ่อยๆ และยกก้านที่ปัดน้ำฝนค้างไว้ครั้งละนานๆ
จะส่งผลให้สปริงยกก้านที่ปัดน้ำฝนเกิดอาการล้าเร็ว อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้แรงกดของใบปัดน้ำฝนกับกระจกหน้าลดลง
ส่งผลต่อแรงปัดของก้านปัดน้ำฝน ทำให้ปัดน้ำฝนไม่เกลี้ยง หรือมีคราบน้ำเป็นเส้น ๆ ตามรอยโค้ง
ซึ่งหากสปริงยกก้านที่ปัดน้ำฝนล้าค่าใช้จ่ายในการซ่อมจะสูงกว่าค่ายางที่ปัดน้ำฝนทั้งสองข้าง

โดยปกติยางที่ปัดฝนมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดี และที่ผิวกระจกไม่ได้มีความร้อนสูงมากมาย
ไม่ว่าจะยกก้านหรือไม่ยกก้าน ยางปัดน้ำฝนก็จะเสื่อมสภาพไปตามธรรมชาติ และสาเหตุที่ยางปัดน้ำฝนเสื่อมเร็วกว่าปกติ
ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากความร้อน แต่เกิดการใช้งานและการดูแลรักษามากกว่า
Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host