จะต่อประกันรถยนต์ทั้งทีก็ต้องรู้วิธีที่จะทำให้ได้ประกันในราคาที่ถูกลงซิ

unyana

สำหรับใครก็ตามที่มีรถยนต์อยู่นั้นก็คงจะรู้แล้วว่าการทำ ประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง ทั้งนี้ก็เนื่องจากว่าโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดงนั้นในครั้งแต่ไม่ว่าจะเลือก ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี ก็ตามนั้นก็มักจะเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 อยู่แล้ว ซึ่งก่อนที่จะซื้อนั้นแน่นอนว่าก็คงจะต้องทราบรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเคลมการคุ้มครองในกรณีต่างๆ อย่างแน่นอน แล้วค่อยมาศึกษาว่า ประกันรถยนต์บริษัทไหนดี ทีหลัง
แต่คราวนี้เมื่อเราทำประกันจนครบปีแล้วสัญญาก็ย่อมหมดลง ฉะนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องหาข้อมูลว่าการ ต่อประกันรถยนต์ต้องใช้อะไรบ้าง แล้วเราควรจะต่อที่เดิมในความคุ้มครองแบบเดิมดีหรือไม่ หรือจะลองเปลี่ยนบริษัทแล้วหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามี ประกันรถยนต์ที่ไหนดี อีกบ้าง และแน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนอยากได้ก็คงจะหนีไม่พ้นค่าเบี้ยที่ถูกลงและได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้รถยนต์ของเรา ซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกวิธีที่จะทำให้เราต่อประกันรถยนต์ได้ในราคาที่ถูกลง
1.        ลองเลือกต่อประกันหรือทำประกันแบบกลุ่ม แน่นอนว่าการทำประกันแบบนี้เราจะได้ส่วนลดเพิ่มประมาณ 10 % และถ้าหากใครมีรถยนต์เก่าที่มีอายุเกิน 7 ปี นั้นก็สามารถทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้ แต่ก็มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นการทำพร้อมกันตั้งแต่ 3 คันขึ้นไป และทางเจ้าของรถยนต์ทั้งสามคันนั้นก็อาจจะต้องมีสนามสกุลเดียวกันเท่านั้น ดังนั้นใครที่มีรถยนต์หลายคันก็ลองใช้วิธีนี้ดู
2.        ต้องมีประวัติการขับรถยนต์ที่ดี แน่นอนว่านี่เป็นวิธีที่สุดแสนจะง่ายและยังทำให้เราได้ราคาการต่อประกันรถยนต์ที่ถูกลงแถมปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของเรา ซึ่งประวัติการขับรถยนต์ที่ดีนี้เราหมายถึง จะต้องขับรถไม่ให้เกิดอุบัติเหตุนั่นเอง และถ้าหากไม่มีการเคลมในปีที่ 1 ก็จะลดลง 20 % ส่วนปีที่ 2 ลด 30% ซึ่งในแต่ละปีจะลดลงไปเรื่อย ๆ
3.        ลองต่อประกันกับทางบริษัทโดยตรง ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถต่อประกันกับทางบริษัทได้โดยตรงโดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่านนายหน้า เพียงแค่เรามีเวลาสักนิดก็เพียงพอ และมันอาจจะทำให้เราได้ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าด้วย แต่ทว่าในการซื้อขายผ่านนายหน้าบางรายนั้นเราอาจจะได้การอ็อพชั่นเสริม อย่างเช่น มีรถยนต์สำรองใช้ หรือมีเงินทดแทนระหว่างซ่อม เป็นต้น
4.        ทำประกันระบุผู้ขับขี่ ซึ่งถ้าหากว่าเราใช้รถยนต์คันนี้เพียงคนเดียว โดยไม่มีผู้อื่นมาใช้รถยนต์ของเราแน่ๆ หรือรถยนต์คันนี้อาจจะมีใครมาขับบ้างในบางครางซึ่งเป็นระยะนานๆ มาขับทีนั้น เราก็จะสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ลงในกรมธรรม์ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ค่าเบี้ยประกันที่ถูกลง หรือหากมีผู้อื่นนำรถยนต์ของเราไปใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุ เราก็ยังสามารถเคลมได้เช่นกัน แต่ทว่าอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฉะนั้นก็ลองพิจารณาในข้อนี้ดู