เกี่ยวกับเรื่องของใบเคลมประกันภัย ว่ามีอายุหรือไม่

unyana

ถ้าหากว่าใครก็ตามที่มีรถยนต์มาแล้วหลายคันนั้นก็อาจจะไม่มีปัญหาในเรื่องของการดูแลรักษาสภาพรถยนต์ รวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ที่ควรรู้เป็นเบื้องต้น อย่างเช่น ในเรื่องของ ประกันภัยรถยนต์ หรือการทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับตาม พรบ รถยนต์ เป็นต้น ส่วนในเรื่องของประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจนั้น เราก็มักจะเห็นว่า รถยนต์ใหม่ป้ายแดงนั้นก็ทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ด้วยกันทั้งสิ้น และถ้าหากว่าเป็นรถยนต์ที่ได้ใช้งานมาหลายปีแล้ว รวมถึงเป็นรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นั้นก็อาจจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองจริงลงมา
อย่างเช่น ประกัน รถยนต์ 2 หรือประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3 เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเลือกทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 1, ประกัน รถยนต์ 2 หรือประกันรถยนต์ ชั้น 3 เป็นต้นนั้นก็คงจะต้องนำหลายๆ เรื่องในชีวิตมาพิจารณาตัดสินใจให้รอบคอบด้วย ทั้งนี้ก็เพราะว่าปัจจัยในชีวิตของแต่ละคนเป็นสิ่งที่ไม่อาจจะเหมือนกันได้นั่นเอง และแน่นอนว่าเมื่อใครก็ตามที่ได้ทำประกันรถยนต์ไว้นั้นก็อาจจะต้องมาทำความรู้จักกับใบเคลมประกันภัยเสียหน่อย ทั้งนี้ก็เพราะว่าใบเคลมประกันนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเข้าไป ฉะนั้นในวันนี้เราจึงมีข้อมูลมาฝากกันด้วย
สำหรับหลายๆ คนนั้นก็อาจจะรู้จักใบเคลมกันในอีกชื่อหนึ่ง ซึ่งเรามักจะเรียกมันอย่างเป็นทางการว่า "ใบรับรองความเสียหาย" ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบ้วนั้นไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม ทางบริษัทประกันภัยก็จะออกใบเคลมให้กับเรา ซึ่งเรานั้นจะต้องเป็นผู้เอาประกันภัยไว้นั่นเอง ทั้งนี้ใบเคลมนั้นมีไว้เพื่อเป็นการยืนยันกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมว่า ทางบริษัทประกันภัยรายนั้นๆ จะเป็นผู้ที่รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเราตามที่ระบุไว้ในใบเคลมนั่นเอง
ซึ่งใบเคลมที่ว่านี้มันก็จะมีอายุ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทประกันภัยออกเอกสารให้กับเรา และนั่นก็หมายความว่า เรานั้นจะสามารถนำรถเข้าซ่อมเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เราจะสะดวกภายในระยะเวลา 2 ปีนั่นเอง แต่ทางเรานั้นขอแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนว่า ถ้าหากว่าเราได้รับใบเคลมจากบริษัทประกันภัยมาแล้ว เราก็ควรที่จะนำรถของเราเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ภายใน 15 วัน ทั้งนี้ก็เพราะว่า ถ้าหากตัวเราปล่อยไว้ไปเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปนั้น ความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุนั้นมันก็อาจจะลุกลามเกินกว่าที่ได้ระบุไว้ในใบเคลมประกันนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น อาจมีรอยสนิมเกิดขึ้นได้จากการที่เราไม่นำรถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อม โดยปล่อยรถทิ้งไว้เป็นเวลานานทำให้ตัวรถถูกสนิมกัดกร่อนไปตามกาลเวลา โดยในกรณีนี้นั้น ทางบริษัทประกันภัยเขาก็จะรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้นนั่นเอง  และในส่วนของความเสียหายที่เกิดเพิ่มขึ้นมาภายหลังจากอุบัติเหตุนั้น ตัวเราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมเอง ดังนั้นแล้วเพื่ออิสระภาพทางการเงินนั้น เราจึงควรนำรถเข้าซ่อม ณ ศูนย์บริการ หรืออู่ซ่อม ภายใน 15 วัน เป็นต้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อม รวมไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในครั้งด้วยนั่นเอง