อยากมีใบขับขี่สาธารณะและเอกสารที่ต้องใช้ เรื่องง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน

unyana

ทุกวันนี้การทำใบขับขี่เป็นเรื่องง่าย รวมถึง ใบขับขี่สาธารณะ ซึ่งหลายขั้นตอนทำที่บ้านได้เลย ไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานขนส่งและใช้เวลาไม่เกินชั่วโมงเท่านั้น แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ใช้เวลาครึ่งวัน ไหนจะต้องไปแออัดรวมกันที่เดียวอีกด้วย มาดูกันว่าเรื่องง่ายๆ นี้มีขั้นตอนอะไรบ้าง

1.ทำใบขับขี่สาธารณะ ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
        อยาก ขับรถแท็กซี่ต้องมีคุณสมบัติของผู้ขอรับใบขับขี่สาธารณะเพื่อขับรถแท็กซี่ ดังนี้
-ต้องมีใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลมาแล้ว 1 ปี
-อายุไม่ต่ำกว่า 22 ปี
-มีความสามารถในการขับรถ และมีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการจราจร
-ไม่มีโรคประจำตัว หรือร่างกายพิการจนเป็นอุปสรรคต่อการขับรถ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตจิตฟั่นเฟือน
-ไม่เคยทำความผิดเกี่ยวกับการขับรถ เช่น เมาแล้วขับ ขับเร็วเกินกำหนด ขับประมาทน่าหวาดเสียวหรือกีดขวางการจราจร ไม่เคยได้รับโทษจำคุกความผิดเกี่ยวกับรถยนต์ เว้นแต่จะพ้นโทษครั้งสุดท้ายไม่น้อยกว่า 6 เดือน
        2.เอกสารทำใบขับขี่สาธารณะ มีอะไรบ้าง
ในขั้นตอนการทำ ใบขับขี่สาธารณะ อยากผ่านฉลุยรวดเร็วทันใจให้เตรียมเอกสารไว้ในพร้อม ดังนี้
-บัตรประชาชน
-ใบขับขี่ส่วนบุคคล
-ใบรับรองแพทย์ตัวจริง (อายุไม่เกิน 30 วัน)
-คิวอาร์โค้ดผ่านการอบรม (อายุไม่เกิน 180 วัน)
เนื่องจากผู้โดยสารสมัยนี้มีทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีขึ้น ทั้งนี้ บริการเรียกแท็กซี่ Grab Taxi เปลี่ยนรูปแบบการเดินทางดั้งเดิมทำให้ได้รับความสะดวกสบายมากกว่าแต่ก่อน ผู้โดยสารทราบค่าบริการได้ทันที รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และกำหนดระยะเวลาที่ไปถึงได้ด้วย ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับคนขับแท็กซี่
3.ขั้นตอนการทำใบขับขี่สาธารณะ มีดังนี้
        การทำใบขับขี่สาธารณะในปัจจุบันทำได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินทางไปที่กรมขนส่งเพื่อทำการสอบให้ยุ่งยาก
-กรณีที่เข้าใช้งานครั้งแรกให้เข้าแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือง่าย ๆ ที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com คลิกลงทะเบียนใหม่และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อเข้าสู่ระบบขอรับใหม่ขับขี่ โดยเลือกใบขับขี่ประเภทที่ต้องการ
-จากนั้นเลือกหลักสูตรที่ต้องการอบรมทางออนไลน์และดูวิดีโออบรมพร้อมกับทำแบบทดสอบให้เรียบร้อยครบถ้วน
-เมื่อผ่านการอบรมแล้วจะได้รับคิวอาร์โค้ดเป็นหลักฐานว่าผ่านการอบรมเรียบร้อย สิ่งที่ได้เป็นคิวอาร์โค้ดที่มีอายุ 180 วันเพื่อนำไปทำใบขับขี่ต่อไปภายในระยะเวลาที่กำหนด
-ถัดไปเป็นขั้นตอนการจองคิวเข้ารับการทดสอบผ่านทางเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th หรือ หรือแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
-หลังจากรับคิวอาร์โค้ดเพื่อยืนยันว่าผ่านการอบรม ให้นำเอกสารไปยื่นเรื่องที่กรมขนส่งเพื่อทดสอบสมรรถนภาพร่างกายและสอบข้อเขียน
-เมื่อสอบผ่านแล้ว รับหนังสือขอตรวจประวัติอาชญากรรมไปยื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปทุมวัน) หรือศูนย์พิสูจน์หลักฐานจังหวัดหรือสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้ เพื่อรับใบขับขี่และชำระค่าธรรมเนียมได้ที่กรมขนส่ง
        เมื่อสอบ ใบขับขี่สาธารณะ ผ่านแล้ว ขั้นต่อไปคือสมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ GrabCar เพื่อขับแท็กซี่เป็นอาชีพเสริมหรือเป็นช่องทางสร้างรายได้หลักได้เลย แท็กซี่เป็นรถโดยสารที่รองรับการเดินทางของผู้คนจำนวนมากในแต่ละวัน อาชีพ Grab Taxi เป็นทางเลือกที่สร้างรายได้ดีและทำได้ในเวลาว่างจากงานประจำด้วย