รถยนต์สตาร์ทไม่ติด เพราะอะไรบ้างมาดูกัน

unyana

สำหรับรถยนต์นั้นเราก็อยากที่จะให้ทุกคนได้นำไปทำ ประกันรถยนต์ กันทุกคน ซึ่งก่อนที่จะทำประกันรถยนต์ในความคุ้มครองใดนั้น เราก็ควรที่จะ เช็คประกันรถยนต์ ด้วยว่า ประกันรถยนต์ที่ไหนดี ทั้งนี้ไม่ว่าเรานั้นจะเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2 หรือ ประกัน ชั้น 3 เป็นต้น โดยเรานั้นอาจจะ เช็คเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ควบคู่ไปด้วยก็ได้ เพื่อที่จะทำให้เรานั้นสามารถที่จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า เราควรเลือกทำประกันรถยนต์กับบริษัทประกันภัยใดนั่นเอง ส่วนในวันนี้สำหรับใครก็ตามที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ของรถยนต์นั้น เราก็มีคำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาที่รถยนต์เรานั้นมักจะสตาร์ทไม่ติดมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกันด้วย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า มันเกิดจากอะไรได้บ้าง
1.        เป็นเพราะแบตเตอรี่หมดหรือแบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเรานั้นบิดหรือกดปุ่มสตาร์ทแล้วทุกอย่างเงียบสนิท หรือไม่มีแรงพอที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์นั้น มันก็เพราะว่าระบบไฟต่าง ๆ อ่อน ซึ่งต้นตอนั้นมันก็จะมาจากเรื่องของแบตเตอรี่ไม่มีไฟ หรือเสื่อมสภาพไม่จนสามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้นานแล้วนั่นเอง โดยอาการเสื่อมของแบตเตอรี่นั้นมันก็มีหลายระดับ ซึ่งถ้าว่ามันเสื่อมมากก็อาจจะจอดรถทิ้งไว้แค่ 2-3 ชม. รถก็จะสตาร์ทไม่ติดแล้ว โดยสัญญาณเตือนนั้นมันก็อาจจะเป็นตอนที่เราสตาร์ทแล้วมันมีเสียงแชะ ๆ ลสดยาวกว่าจะสตาร์ทติดหลังการจอดรถทิ้งไว้นั่นเอง
2.        เป็นเพราะไดชาร์จเสื่อมสภาพแล้ว โดยอาการของมันนั้นก็อาจจะคล้ายกับแบตเตอรี่เสื่อม ทั้งนี้ก็เพราะว่าหน้าที่ของไดชาร์จนั้นก็คือ ปั่นกระแสไฟเลี้ยงรถยนต์และชาร์จเก็บเข้าแบตเตอรี่นั่นเอง ฉะนั้นถ้าหากว่าไดร์ชาร์จเสื่อมมันก็จะไมม่สามารถชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการใช้งานได้ โดยไฟในแบตเตอรี่ก็จะถูกดึงมาใช้จนหมดในที่สุด ซึ่งการสังเกตอาการไดร์ชาร์จเสื่อมนั้นก็อย่างเช่น รถดับเองขณะรอบต่ำ หรือวิ่ง ๆ อยู่รถดับกลางอากาศ เป็นต้น
3.        เป็นเพราะไดร์สตาร์ทเสื่อมสภาพ ซึ่งถ้าหากว่า รถสตาร์ทไม่ติดเลย โดยที่แบตเตอรี่ยังใหม่ ไฟไม่หมด หรือลองพ่วงแบตเตอรี่แล้วก็ยังสตาร์ทไม่ติด หรือสตาร์ทแล้วยังมีเสียงแชะ ๆ หรือไม่มีเสียงเลนรั้น มันก็อาจจะเป็นที่ตัวมอเตอร์สตาร์ทมีปัญหา ซึ่งเราต้องพึ่งรถสไลด์หรือบริการซ่อมนอกสถานที่
4.        เป็นเพราะระบบไฟฟ้าหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์มีปัญหา โดยในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ นั้นมันก็จะมีระบบไฟฟ้าและวงจรอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น ซึ่งแม้ว่ากรณีนี้อาจจะเกิดขึ้นได้ยาก แต่ทว่าถ้ามันรวนขึ้นมาแน่นอนค่าใช้จ่ายในการซ่อมมันก็จะสูงด้วย ซึ่งเราสามารถสังเกตอาการง่าย ๆ ที่มีโอกาสเกิดได้ก็อย่างเช่น การจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ แล้วหนูเข้ามากัดสายไฟ การล็อกการทำงานของตัวระบบเองเมื่อมีบางอย่างผิดปกติ เป็นต้น ซึ่งเรานั้นสามารถที่จะตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยการสังเกตที่ไฟหรือข้อความบนหน้าปัดโชว์ความผิดปกติ หรือถ้าหากลองพ่วงแบตเตอรี่แล้วไม่สามารถสตาร์ทรถได้ หรือไม่มีการตอบสนองอะไรเลยก็ต้องเรียกรถสไลด์เข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมแล้ว