ใครที่อยากประหยัดค่าล้างรถนั้น สามารถมาอ่านเรื่องนี้ได้

unyana

แน่นอนว่าเมื่อเรานั้นมีรถยนต์ 1 คัน ก็ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะเริ่มจากการทำตามระบบระเบียบขั้นตอนทางกฎหมาย อย่างเช่น การจ่ายภาษี ต่อ พรบ หรือดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ถ้าหากว่าใครก็ตามที่ต้องการที่จะให้รถยนต์ของเรานั้นมีความคุ้มครองที่เพิ่มมากขึ้นขากที่เราได้รับจาก พรบ รถยนต์นั้น เราก็สามารถที่จะทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจได้ ซึ่งก็ตะมีความคุ้มครองให้เราเลือกหลากหลาย อย่างเช่น ประกันรถยนต์ ชั้น 1 , ประกันชั้น 2 หรือ ประกัน ชั้น 3 เป็นต้น และถ้าหากว่า เป็นรถยนต์ป้ายแดงนั้นเราก็แนะนำให้ทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ไปก่อน เพราะว่ามันให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุดแล้วนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ที่ไม่ค่อยได้ใช้และมีอายุการใช้งานมานานแล้วนั้น เราก็อาจจะเลือกทำ ประกัน ชั้น 3 หรือชั้น 3+ ก็ได้ และนอกจากนั้นก็คงเป็นเรื่องของการขับขี่ให้ปลอดภัย การดูแลรักษารถยนต์ รวมถึงการเช็ดล้างทำความสะอาดด้วย โดยใครก็ตามที่ไม่อยากเสียเงินค่าล้างรถโดยสิ้นเปลืองนั้น เรามาอ่านวิธีการล้างรถที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ดีกว่า
1.        เรอจากฉีดนำสะอาดและใช้มือถู ซึ่งมันจะเป็นการล้างคราบฝุ่น คราบดิน หรือเขม่าต่าประกัน ชั้น 3ง ๆ ที่มาเกาะอยู่ที่รถยนต์ และถ้าหากว่าเป็นคราบที่เกาะแน่นนั้นเราสามารถใช้น้ำฉีดและเอามือถูไปที่คราบนั้นได้เลย  
2.        เราอาจจะใช้น้ำยาล้างรถในการล้างด้วยก็ได้ เพราะการที่เราจะล้างรถด้วยน้ำสะอาดอย่างเดียวนั้นก็สามารถทำได เพียงแต่คราบบางอย่างนั้นอาจจะไม่หมดไป และที่สำคัญเราก็ห้ามเอาผ้าชุปน้ำมาเช็ดเด็ดขาด เพราะจะทำให้เป็นรอยแมว ดังนั้นการใช้แชมพูร่วมด้วยจึงดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนั้นน้ำยาล้างรถก็มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดที่ที่นิยมกัน คือ แชมพูและโฟม
3.        การถูทำความสะอาดนั้นก็ต้องทำด้วยความระมัดระวัง  ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกใช้โฟมหรือแชมพูก็ตามนั้น เราจะต้องถูเพื่อให้แชมพูหรือโฟมนั้นกระจายไปให้ทั่วบริเวณ และที่เราอยากจะแนะนำนั้นก็คือ ให้เราเลือกใช้ฟองน้ำในการถู และเราไม่ควรใช้ผ้า และในการถูนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องถูแรงมากนัก แล้วก็ควรที่จะเริ่มถูกจากที่สูงสุดของตัวรถก่อนแล้วก็ค่อย ๆ ไล่ลงมาที่บอดี้ของตัวรถ แล้วค่อยเก็บรายละเอียดเล็กน้อยตามซอกมุมต่าง ๆ นั่นเอง
4.        อย่าปล่อยให้น้ำยาล้างรถที่เราถูไว้แห้งเป็นคราบ ซึ่งก็คือ เมื่อเราถูเสร็จแล้วเราก็ควรที่จะล้างด้วยน้ำสะอาดทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพื่อลดโอกาสที่น้ำยาจับตัวกันเป็นคราบแห้ง
5.        รีบเช็ดให้แห้ง ซึ่งเราควรที่จะต้องเลือกใช้ผ้าที่มีเนื้อนุ่มซึมซับน้ำง่าย และถ้าหากว่ามีงบน้อยให้เลือกใช้ผ้าสำลี แต่ถ้าพอมีงบประมาณก็อาจจะเลือกใช้ผ้าไมโคไฟเบอร์สังเคราะห์หรือผ้าชาร์มัวร์สังเคราะห์ เพราะมันสามารถซับน้ำได้ดีและเร็ว และเราควรมีผ้า 2 ผืนในการเช็ด