ใครที่จะทำประกันภัยรถยนต์นั้น ควรดูเรื่องเหล่านี้ด้วย

unyana

ในเรื่องของการทำ ประกันภัยรถยนต์ นั้นถ้าหากว่าเป็นการทำตาม พรบ เราก็รู้กันอยู่แล้วว่า เป็นเพียงความคุ้มครองพื้นฐานเท่านั้น ซึ่งการคุ้มครองขั้นพื้นฐานนี้ทันก็อาจจะไม่ได้ครอบคลุมมากมายเท่ากับที่ใจเราต้องการ อย่างเช่น ในเรื่องของรถหาย รถไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเป็นเรื่องของทุนประกันภัยในการคุ้มครอง เป็นต้น ฉะนั้นเราจึงเห็นได้ว่า หลายๆ คนนั้นเลือกที่จะทำ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 , ชั้น 2 หรือ ประกัน ชั้น 3 เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าเราจะเลือกทำประกันชั้นใดตามที่เราได้กล่าวมานั้น หากพูดถึงในเรื่องของการคุ้มครองก็จะมีมากกว่าการทำประกันตาม พรบ แต่มันก็จะแลกมากับเรื่องของค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์นั่นเอง และในวันนี้สำหรับใครก็ตามที่เพิ่งจะซื้อรถใหม่หรือกำลังจะซื้อและกำลังข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องประกันอยู่นั้น เราก็มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนกันด้วย
1.        ในการคุ้มครองจากประกันภัยที่เราทำนั้นจะมีผลทันที หลังจากที่เราได้ทำการชำระค่าเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัท และก็มีใบเสร็จรับเงินที่ถูกต้อง
2.        ในการทำประกันภัยนั้นจะไม่คุ้มครองในความเสียหายถ้าหากว่า ผู้ที่ขับขี่รถนั้นมีแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 50 mg% หรือผู้ขับขี่รถนั้นไม่มีใบอนุญาตในการขับขี่
3.        ถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น เราควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทประกันที่จะดำเนินการในเรื่องต่างๆ แทนเรา และเรานั้นก็อย่าเพิ่งไปเซ็นรับผิดใดๆ เด็ดขาด
4.        และในส่วนของค่า Excess (ค่าเสียหายส่วนแรก) นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่เรานั้นได้ทำไว้กับลูกค้าด้วย
5.        ถ้าเกิดว่าเรานั้นได้ไปขับรถชนคนเข้า เราต้องลงมาช่วยคนเจ็บ ส่วนในเรื่องของคดีความนั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามหลักฐาน โดยเรานั้นอาจจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานถ้าหากว่าเรานั้นไม่ผิดก็ได้ เพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาล แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตามห้าเราหยีเด็ดขาด
6.        ในเรื่องของการขนย้ายรถยนต์นั้นทางบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบในการขนย้ายรถ ยกเว้นเสียแต่ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่เราได้ทำไว้ว่าให้เป็นหน้าที่เราในการออกค่าใช้จ่าย
7.        ถ้าหากว่าเป็นในกรณีที่รถเราเสียหายจนซ่อมไม่ได้ ทางบริษัทประกันภัยจะจ่ายเงินให้เราเต็มทุนประกัน และรถคันนั้นจะตกเป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันภัยทันที
8.        ในเรื่องของค่าอะไหล่ในการซ่อมรถ เราสามารถเรียกเก็บจากบริษัทประกันได้ตามราคาประเมินทั้งนี้ก็เพื่อนำไปซื้ออะไหล่เองได้
9.        เราสามารถตรวจสอบไปที่บริษัทประกันภัยตามรายงานอุบัติเหตุว่า รถถของเรานั้นเป็นฝ่ายถูกหรือผิดจริงหรือไม่ทั้งนี้มันก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง
10.        ถ้าเป็นรถที่ติดแก๊สหรืออุปกรณ์ตกแต่งไม่ว่าชนิดใด เราจะต้องบอกให้บริษัทประกันภัยทราบด้วยเพื่อที่จะได้ให้ความคุ้มครองไปถึงอุปกรณ์เหล่านั้นด้วยนั่นเอง
และที่เราได้กล่าวไปนั้นก็เป็นเพียงเรื่องราวเบื้องต้นสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มศึกษาในเรื่องของประกันภัยภาคสมัครใจ ซึ่งถ้าหากว่าใครก็ตามที่กำลังศึกษาในรายละเอียดมากกว่านี้ก็สามารถดูได้ที่เงื่อนไขของประกันแต่ละประเภทเลย