เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากขึ้นและการแพร่ระบาดของโรคอ้วน

yamikaa

เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากขึ้นและการแพร่ระบาดของโรคอ้วน
มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอว่าการลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหวานจะช่วยลดความชุกของโรคอ้วนและโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน น่าเสียดายที่เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับคนนับล้านทั่วโลกและเป็นผู้สนับสนุนหลักในการแพร่ระบาดของโรคอ้วน

เทเครื่องดื่มหวานลงในแก้วทบปัญหาคือขนาดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 40 ปีที่ผ่านมานำไปสู่การบริโภคที่เพิ่มขึ้นในเด็กและผู้ใหญ่:

ก่อนปี 1950 ขวดน้ำอัดลมมาตรฐานมีขนาด 6.5 ออนซ์ ในปี 1950 ผู้ผลิตน้ำอัดลมแนะนำขนาดที่ใหญ่ขึ้นรวมถึงกระป๋อง 12 ออนซ์ซึ่งมีวางจำหน่ายอย่างกว้างขวางในปี 1960 ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ขวดพลาสติกขนาด 20 ออนซ์กลายเป็นบรรทัดฐาน วันนี้ขวดพลาสติกรูปทรงมีขนาดที่ใหญ่กว่าเช่น 1 ลิตร
ในปี 1970 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลประกอบด้วยประมาณ 4% ของปริมาณแคลอรี่ต่อวัน ในปี 2544 ที่เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 9%

เด็กและเยาวชนในสหรัฐอเมริกาเฉลี่ย 224 แคลอรี่ต่อวันจากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปี 1999 ถึง 2004 เกือบ 11% ของปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับต่อวัน จาก 1989 ถึง 2008 แคลอรี่จากเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเพิ่มขึ้น 60% ในเด็กอายุ 6 ถึง 11, 130 ถึง 209 แคลอรี่ต่อวันและร้อยละของเด็กที่บริโภคพวกเขาเพิ่มขึ้นจาก 79% เป็น 91% ในปี 2005 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล (โซดาพลังงานและเครื่องดื่มกีฬา) เป็นแหล่งแคลอรี่ชั้นนำในอาหารของวัยรุ่น (226 แคลอรี่ต่อวัน) เต้นพิซซ่า (213 แคลอรี่ต่อวัน)
แม้ว่าการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในสหรัฐอเมริกาลดลงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ครึ่งหนึ่งของประชากรบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในวันที่กำหนด 1 ใน 4 คนได้รับแคลอรี่อย่างน้อย 200 แคลอรี และ 5% ได้รับแคลอรี่อย่างน้อย 567 แคลอรี่เทียบเท่ากับโซดาสี่กระป๋อง ระดับไอดีเหล่านี้มีค่าเกินคำแนะนำด้านการบริโภคอาหารที่ให้แคลอรีไม่เกิน 10% ของแคลอรี่ต่อวันจากน้ำตาลที่เพิ่มเข้ามา

Best content supported by scr888th.com
เว็บ  Slot game อันดับหนึ่งในไทย

ทั่วโลกและในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากการขยายตัวของเมืองและการตลาดเครื่องดื่ม
บทบาทของการตลาดเครื่องดื่มหวาน
โซดาโฆษณาบริษัท เครื่องดื่มใช้จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อทำการตลาดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล แต่โดยทั่วไปแล้วจะปฏิเสธข้อเสนอแนะว่าผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางการตลาดมีบทบาทในการแพร่ระบาดของโรคอ้วน

ในปี 2556 โคคา - โคล่าได้เปิดตัวโฆษณา“ ต่อต้านโรคอ้วน” โดยตระหนักว่าโซดาที่มีรสหวานและอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ มีส่วนทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคอ้วน บริษัท โฆษณาเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรี่หลากหลายและสนับสนุนให้บุคคลที่รับผิดชอบในการเลือกและน้ำหนักเครื่องดื่มของตนเอง การตอบสนองต่อโฆษณาต่าง ๆ โดยผู้เชี่ยวชาญหลายคนเรียกมันว่าเข้าใจผิดและไม่ถูกต้องในการระบุถึงอันตรายต่อสุขภาพของโซดา
การศึกษาที่ได้รับทุนสนับสนุนจากอุตสาหกรรมเครื่องดื่มนั้นมีแนวโน้มที่จะแสดงให้เห็นถึงการค้นพบที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมมากกว่าสี่ถึงแปดเท่า



สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าส่วนใหญ่ของการตลาดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลนั้นมีวัตถุประสงค์โดยตรงที่เด็กและวัยรุ่น