เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนลุยสิงคโปร์..

samedi

เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนลุยสิงคโปร์..
สิงคโปร์ หรือสาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นนครรัฐสมัยใหม่ใน เขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้อยู่ปลายทิศใต้ของคาบสมุทรมลายู เหนือเส้นศูนย์สูตรพียงเล็กน้อย ในลำดับนี้ ผมจึงขอกล่าวถึงประวัติ ความเป็นมาของสิงคโปร์ เพื่อให้ซึมซับบรรยากาศก่อนการท่องเที่ยว ย้อนไปเมื่อราวศตวรรษที่ 3 สิงคโปร์เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวจีน พวกเขาเรียกสิงคโปร์ว่า "เทมาเส็ก" (เมืองแห่งทะเล) และ "พู เหลา ซุง" หรือ โปวหลัวซางที่แปลวปลายสุดของคาบสมุทร จากภูมิประเทศ ของสิงคโปร์ จึงทำให้เกาะแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่พักสินค้าในระแวก แหลมมลายู กระทั่งในศตวรรษที่ 13 สิงคโปร์ถูกปกครองภายใต้ อาณานิคมของอาณาจักรมัชฌาปาหิตแห่งชวา พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น เมือง "สิงคปุระ" (เมืองสิงโต) แต่แล้วในช่วงศตวรรษที่ 15 ก็เคยอยู่ ภายใต้การปกครองอาณานิคมของอาณาจักรสยามชนกัน หลังจากนั้น เกิดการแย่งชิงสิงคโปร์ไปหลายครั้ง ทั้งอยู่ภายใต้อาณานิคมของ มะละกา, โปรตุเกส, ฮอลันดา แม้เมืองนี้ จะไม่มีทรัพยากรอะไรนัก แต่ด้วยภูมิประเทศที่สามารถทำการค้าเจริญรุ่งเรื่องได้ จึงทำให้ สิงคโปร์เป็นที่หมายปองของอาณาจักรต่างๆ แต่ท้ายสุดก็ตกอยู่ภายใต้ อาณานิคมของอังกฤษ ผู้เข้ามาทำให้สิงคโปร์เจริญอย่างรวดเร็ว อังกฤษเข้ามายึดสิงคโปร์ในช่วงศตวรรษที่ 18 เพราะเล็ง เห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการทำการค้าของ ภูมิภาคนี้ และได้ส่ง เซอร์โทมัส สแตมฟอร์ด แรฟเฟิลส์ (Sir Thomas Stamford Rafles) มาเป็นผู้พลิกฟื้นมืองห่ให้มีการค้าขายมากขึ้น และสร้างเศรษฐกิจของสิงคโปรึให้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งนับเป็นยุคที่ สิงคโปร์เติบโตอย่างก้าวกระโดดมากที่สุดเลยก็ว่าได้
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สิงคโปร์ถูกใช้เป็นฐานทัพของฝ่ายสัมพันธมิตร แต่ญี่ปุ่นสามารถบุกเข้ามายึดครองสิงคโปร์ ทว่าในท้ายสุด ฝ่ยสัมพันธมิตรชนะ สงครามโลก ทำให้อังกฤษกลับมาควบคุมสิงคโปรึได้อีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งยังยก ฐานะสิงคโปร์ เป็นอาณานิคมแบบเอกเทศ คือ สามารถปกครองกิจการภายในได้ ด้วยตนเอง แต่ไม่มีอำนาจดูแลกิจการทหาร และกิจการต่างประเทศ สภา- นิติบัญญัติอังกฤษเริ่มเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกตั้งสมาชิกบางส่วนเข้ามาทำ หน้าที่ได้มีประมุขฝ่ายบริหารคือ เดวิด มาร์แชล สมาชิกพรรคแนวหน้า เขาเดินทาง ไปอังกฤษเพื่อขออิสรภาพให้แก่สิงคโปร์ แต่ไม่เป็นผล จึงประกาศลาออก จากนั้น ลิม ย ฮก จึงขึ้นมารับตำแหน่งแทน และไปเจรจากับอังกฤษอีกครั้ง อังกฤษให้ เพิ่มจำนวนสมาชิกสภา จาก 32ที่นั่ง เป็น51 ที่นั่ง แต่ก็ยังไม่ให้อิสระในการดูแล กิจการทหาร และต่างประเทศเหมือนเดิม กระทั่งในปี ค.ศ.1959 พรรคกิจประชาชนนำโดยลีกวน ยูได้รับเลือกตั้ง เข้ามาในสภา 43ที่นั่ง (จาก51 ที่นั่ง) และได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานจนถึงปี ค.ศ.1990 (รวม 31 ปี) แม้ในช่วงแรกของการบริหารของลี กวน ยู จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาเห็นโอกาสที่มาเลเซียได้รับอิสรภาพจากอังกฤษ เขาจึงขอรวมสิงคโปร์เข้ากับ มลายู กลายเป็นสหภาพมลายาทันที เพื่อจะไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นอังกฤษอีก
เสียง
บทความจาก 918kiss