เทียบให้ชัด ! รวม 3 ข้อแตกต่างระหว่าง TikTok Ads VS Facebook Ads

jiramathshare

ในการทำธุรกิจปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะต้องพึ่งการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา tiktok ad หรือโฆษณา Facebook Ad ตลอดไปจนถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากมาย เพราะการทำโฆษณาออนไลน์ย่อมส่งผลดีกับธุรกิจของคุณ ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่คำถามที่ตามต่อมา คือ แล้วธุรกิจของคุณเหมาะที่จะทำโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มใดล่ะ ? บทความนี้จึงมาเทียบความแตกต่างในการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ 2 แห่ง นั่นคือ TikTok และ Facebook
ความแตกต่าง 3 ข้อแระหว่าง TikTok Ads  VS Facebook Ads

1. กลุ่มเป้าหมายและสินค้าที่ขายระหว่าง TikTok Ads  VS Facebook Ads
- กลุ่มเป้าหมายและสินค้าของ TikTok Ads : เหมาะกับกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ ขายของต่างๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของกิน ที่มีราคาเข้าถึงง่าย ตามกระแส และอยู่ในกลุ่มความนิยมของวัยรุ่นและวัยทำงาน สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรวดเร็จ แต่ไม่เหมาะกับกลุ่มธุรกิจแบบ B2B งานประเภทรับเหมาต่างๆ
- กลุ่มเป้าหมายและสินค้าของ Facebook Ads : เหมาะกับการขายของทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นสินค้าขนาดเล็ก ตลอดไปจนถึงขนาดใหญ่หลักล้าน เนื่องจาก Facebook มีฐานผู้ใช้งานที่มากและใหญ่ รวมถึงมีความหลากหลายของกลุ่มผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นทุกช่วงอายุ เพศ อาชีพ และความสนใจ ตลอดไปจนถึงไม่ว่าใคร หรือพื้นที่ไหน ย่อมใช้งาน Facebook ในการติดต่อสื่อสาร ดังนั้นทำให้สามารถที่จะยิงโฆษณาหากลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายของธูรกิจได้โดยตรง

2. รูปแบบการทำโฆษณาระหว่าง TikTok Ads  VS Facebook Ads
- รูปแบบการทำโฆษณาของ TikTok Ads :  มีข้อจำกัดคือ เป็นการโฆษณาในรูปแบบของวิดีโออย่างเดียวเท่านั้น แถมยังมีความยาวของวิดีโอที่ค่อนข้างจำกัด แต่หากมีเนื้อหาที่สร้างสรร เป็นกระแส จะยิ่งได้รับความนิยมอย่างมาก และรวดเร็ว ทำให้อาจประหยัดงบในการทำโฆษณาไปได้บ้าง
- รูปแบบการทำโฆษณาของ Facebook Ads : ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มที่มีการใช้งานได้อย่างออิสระ ไม่ได้มีขีดจำกัดในการใช้งานในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ทำให้ Facebook Ads มีความหลากหลายมากขึ้นตามๆผกเวย ไม่ว่าจะเป็น ภาพ, อัลบั้ม, วิดีโอ Carousel, Canvas และ Catalog สินค้า ดังนั้นจึงสามารถเลือกรูปแบบโฆษณาให้ตรงแก่กลุ่มเป้าหมายได้

3. ต้นทุนโฆษณาระหว่าง TikTok Ads  VS Facebook Ads
- ต้นทุนโฆษณาของ TikTok Ads : มีต้นทุนที่ถูกมาก และสามารถดำเนินการเองได้โดยไม่ต้องผ่านเอเจนซี่โฆษณา และมีระบบการเติมเงินค่าโฆษณาแบบ Pre-paid คือการเติมเงินเข้าไปก่อนแล้วค่อยทำการยิงโฆษณา หลังจากนั้นหากเงินในบัญชีหมดก็สามารถเติมเข้าไปใหม่ได้เรื่อยๆ ซึ่งต่างจาก Facebook Ads ที่เป็นแบบ Post-paid (ใช้เท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้นในภายหลัง)
- ต้นทุนโฆษณาของ Facebook Ads : เนื่องจาก  Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างผูกขาดในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้มีฐานกลุ่มใช้งานมาก ดังนั้นคู่แข่งในการยิงโฆษณาจึงมากตามไปด้วย ทำให้ต้องมีเงินทุนพอสมควรในการที่จะสร้างโฆษณาเพื่อแข่งกับคู่แข่งในธุรกิจของคุณ