เผย 7 ความเข้าใจผิดเรื่อง ยางสปอร์ต ที่คนรักรถต้องเรียนรู้เพื่อความปลอดภัย

unyana

การใช้ชีวิตทุกวันนี้ยากขึ้นตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนหรือยุคสมัยที่ต่างไป แต่ก็ไม่ได้ยากเกินกว่าความสามารถของคนเราในการปรับความเข้าใจกับเรื่องต่าง ๆ ให้ถูกต้องเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันต่อไปได้ เหมือนกับการทำความเข้าใจเรื่องยางรถยนต์ให้ถูกต้องเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัยก็เช่นกัน ดังนั้นวันนี้จะมาเผยความเข้าใจผิดเรื่องยางรถยนต์และ ยาง suv​ ยางสปอร์ต​ที่คนรักรถต้องเรียนรู้เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

1. เติมลมไม่ต้องแน่น กลัวยางระเบิด ลมยางคือส่วนสำคัญที่ทำให้การขับขี่ปลอดภัย ซึ่งต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องด้วยว่าหน้าที่ของลมยางคือการรักษาสมดุลความหนาแน่นของยางที่ต้องเสียดสีกับพื้นถนนอย่างเหมาะสม โดยลมยางที่อ่อนมากเกินไปจะทำให้แก้มยางที่ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ยืดและยุบอยู่ตลอดเวลาเป็นสาเหตุให้เกิดความร้อนจนยางระเบิดได้ ขณะที่การเติมลมยางให้มากกว่าปกติ 2 – 4 ปอนด์นั้น เป็นการช่วยรักษาแรงดันลมยางให้เกิดความสมดุล ลมยางที่เหมาะสมคือต้องใช้ค่าลมยางที่ผู้ผลิตแนะนำไว้ต่างหาก ซึ่งรถยนต์แต่ละรุ่นก็มีค่าลมยางแตกต่างกันไปด้วย

2. ยางที่ดีต้องแพงจริงหรือ คำตอบคือจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับรสนิยมในการเลือกใช้ยางของเจ้าของรถมากกว่า เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีในการผลิตยางก้าวหน้าขึ้นมาก ยางที่มีคุณภาพจึงไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนการผลิตสูงจนเกินไป ราคาจึงไม่ใช่สิ่งชี้วัดคุณภาพของยางเสมอไป

3. ยางเก่าที่เก็บไว้คือยางไร้คุณภาพ นับเป็นความเข้าใจผิดที่ต้องแก้ไขเสียใหม่ เพราะยางจะมีคุณภาพไม่ใช่ขึ้นอยู่กับยางเก่าหรือใหม่ ในความเป็นจริงยางที่ผลิตเสร็จแต่ยังไม่ได้ถูกใช้งานจะมีคุณสมบัติเหมือนยางใหม่จากโรงงาน ซึ่งคุณภาพจะดีมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมต่างหาก

4. ยางต่างประเทศดีกว่ายางไทย ไม่ใช่ความจริงเสมอไป เพราะจะยางไทยยางเทศล้วนต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพกับการทดสอบการใช้งานทั้งนั้น อีกทั้งปัจจุบันยังมีการถ่ายทอดนวัตกรรมการผลิตยางให้แก่กันไม่ว่าจะเป็นไทย ญี่ปุ่น มาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย คุณภาพของยางล้วนเทียบเท่ากันได้ทั้งนั้น

5. ยางสปอร์ต เกาะถนนได้ดีกว่ายางนุ่มเงียบ เรื่องนี้เป็นความจริงบางส่วนเท่านั้นเพราะยางชนิดนี้ได้ถูกออกแบบมาให้มีการยึดเกาะถนนได้ดีและทำให้การเข้าโค้งเมื่อใช้ความเร็วสูงมีความนิ่งมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นยางนุ่มเงียบหรือยางแบบสปอร์ต ก็ต้องมีมาตรฐานในการเกาะถนนอยู่แล้ว แต่ประเภทไหนจะยึดเกาะถนนได้ดีกว่ากันขึ้นกับสูตรผสมเนื้อยางกับการออกแบบลายดอกยางต่างหาก

6. ยางประหยัดน้ำมันไม่ปลอดภัย ก็ไม่ใช่ความจริงเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นยางประเภทไหนต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยมาทั้งนั้น เพียงแต่คุณสมบัติของยางประหยัดน้ำมันคือช่วยลดแรงต้านทานการหมุนถึงได้ช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมันด้วย หลายคนถึงได้เข้าใจผิดคิดว่ายางประหยัดน้ำมันไม่ปลอดภัย แต่ในความเป็นจริงยางประเภทนี้นอกจากช่วยประหยัดน้ำมันแล้ว ก็ยังถูกออกแบบมาให้มีการยึดเกาะถนนได้ดีไม่ต่างจากยางประเภทสปอร์ต

7. เปลี่ยนยางเร็วดีกว่า ทำให้มั่นใจในการขับขี่ได้มากกว่า ไม่ใช่ความจริงเสมอไป เพราะยางมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 3 ปีหรือ 50,000 กม. หรือควรเปลี่ยนยางต่อเมื่อใช้เล็บจิกแล้วยางแข็งกระด้าง จิกไม่ลง ดอกยางถึงตำแหน่งสะพานยางแล้ว หรือมีความลึกร่องดอกยางเหลือน้อยกว่า 1.6 มม. หรือมีรอยบวม ปูด แตกลายงา ดังนั้น ควรเปลี่ยนยางเมื่อครบระยะทาง หรือครบอายุ หรือมีสภาพชำรุดเสี่ยงอันตราย จึงจะคุ้มค่ากับงบประมาณที่จ่ายไป

ทั้งหมดนี้คือความเข้าใจผิดเรื่องยางที่ควรทำความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้องเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย โดยที่เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางแล้วกำลังมองหายางคุณภาพหรือกำลังพิจารณาว่า ยาง รถยนต์ ขอบ 17 ยี่ห้อ ไหน ดี ก็ขอแนะนำให้เลือกชมได้ที่ https://www.bridgestone.co.th/th/rim/17-inch ของ Bridgestone เพราะที่ Bridgestone มียางหลากหลายแบบให้เลือกเปลี่ยนตามสไตล์การขับขี่หรือตามรุ่นรถที่ใช้ พร้อมด้วยข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย