"

Image Hosted by CompGamer Image Host      Image Hosted by CompGamer Image Host
กลับไปยังรายบอร์ด โพสต์ใหม่


  หากว่าเรารู้จักการถนอมดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ของเราได้ไปอีกหลายปีเลยทีเดียว ซึ่งเราสามารถทำได้เองด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1. ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่เสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า 
2. ดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดเสมอ ถ้ามีคราบเกลือเกิดขึ้น ให้ทำความสะอาด 
3. ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ทุกๆ 1 สัปดาห์ 
4. ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์ ว่าระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไป ถ้าต่ำไป จะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้ น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในระเหยเร็วหรือเดือดเร็วได้ ในช่วงเวลาเดียวกัน 
5. ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำ ประสิทธิภาพการแพร่กระจาย ของน้ำกรด และน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น 
6. ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้เหมาะสมกับแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี 
7. ควรเติมน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนด ไม่ควรเติมต่ำหรือสูงเกินไป (เติมสูงไป เป็นสาเหตุหลักทำให้ขี้เกลือขึ้นเร็ว แบตสกปรกเร็ว) 


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  เมื่อเราใช้แบตเตอรี่ไปได้สัก 1 ปีครึ่ง หรือ 2 ปี แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมสภาพ
หากสังเกตดีๆ เมื่อแบตเตอรี่ใกล้เสื่อมสภาพจะมีสัญญาณเตือนดังนี้
1. เครื่องยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก
2. ไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง
3. ระบบกระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
4. ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปรกติ
เมื่อมีสัญญาณเตือนดังนี้ ก็เข้าร้านที่ไว้ใจได้ เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เลยครับ


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  สาระน่ารู้เรื่องแบตเตอรี่รถยนต์ 
1. การจัดแบตฯขึ้นรถต้องพิจารณาจากขนาดของเครื่องยนต์เป็นลำดับแรก เพราะผู้ผลิตออกแบบมารองรับรถแต่ละรุ่นโดยเฉพาะอยู่แล้วเพียงแต่เลือกใช้ให้เหมาะสมเ่ท่านั้นเองครับ เช่น รถกระบะเครื่อง 3.0 CC. ก็ต้องใช้ 19 แผ่น 710 CCA. เครื่อง 2.8 ก็ต้องใช้ 17 แผ่น 622 CCA. เป็นต้น. หลักมีอยู่ว่า ต้องตรงรุ่น ถ้าเครื่องเล็กใช้มากกว่าได้แต่ไม่ควรใช้น้อยกว่าเพราะจะเสียเงินเร็วขึ้น หรือใช้แบตฯได้ไม่ถึง 2 ปี 
ค่า CCA. หรือ Cooling Clanking Ahmpare สำคัญกว่าแอมป์ แอมป์คือปริมาณไฟสำรอง แต่ CCA. คือกำลังหรือแรงสตาร์ท หน้าที่ของแบตฯ คือสตาร์ทรถ หลังสตาร์ทเสร็จไดชาร์จจะทำงานต่อ ดังนั้น แรงบิดสตาร์ทหรือ CCA. จึงควรพิจารณาเป็นลำดับแรกร่วมกับขนาดของเครื่องยนต์ครับ จึงควรเลือกแบตฯที่มีค่า CCA. สูง ๆ ไว้ก่อน... 
3.รถบางรุ่นไดสตาร์ทหนักกว่ารถยี่ห้ออี่นในรุ่นเดียวกันก็ต้องใช้แบตฯที่มีกำลังมากกว่า เช่น ไมตี้ X และ L-200 cyclone ใช้แบตฯ 15 แผ่นของเครื่อง 2.5 ทั้ว ๆ ไปไม่พอ ต้องใช้ 17 แผ่นของเครื่อง 2.8 หรือ 19 แผ่นของเครื่อง 3.0 ไปเลยเป็นต้น. 
4. บางครั้งการสตาร์ทไม่ติดอาจไม่เกี่ยวกับแบตฯ ก็ได้ เช่นอาจมีไฟรั่ว หรือ ไดชาร์จบกพร่องก็เป็นได้ ซึ่งต้องไล่ดูว่าสาเหตุเพราะอะไรแน่ การโทษแบตฯอย่างเดียวดูจะไม่ค่อยยุติธรรมนัก...(ปกติทางร้านจะตรวจเช็คให้อยู่แล้วครับ) 
5. รถบางรุ่นการเปลี่ยนแบตฯ จำเป็นต้องเลี้ยงไฟไว้ด้วย เพราะอาจมีกล่อง ECU หรือกล่องควบคุมระบบเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ และรถหรู ๆ ซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ฉะนั้นเจ้าของรถควรแจ้งให้ทางร้านทราบด้วย หากไม่แน่ใจเลี้ยงไฟไว้ก่อนปลอดภัยกว่าครับ... 


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  คำถามที่พบบ่อย!!! 
- ทำไมเดี๋ยวนี้แบตฯใช้ได้ปีเดียวเอง / อาจเป็นเพราะใช้แบตฯปิดรุ่นหรือไม่เหมาะกับขนาดของเครื่องยนต์ ปกติมาตฐานผู้ผลิดออกแบบมาให้ใช้ได้ 2 ปี หรือ 4 หมื่นกิโลเมตร ยกเว้นรถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ (แท็กซี่-รถโดยสารที่ใช้งานหนัก)อายุงานก็จะสั้นลง อาจเหลือแค่ปีเดียวครับ 
- แบตฯเพิ่งซื้อได้ไม่ถึงเดือน ทำไมแบตฯหมดหรือสตาร์ทไม่ได้ / อาจเนื่องจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับแบตฯ เช่น ไดไม่ชาร์ต, ไฟรั่ว, หรือบกพร่องที่ตัวไดสตาร์ทเองก็เป็นได้ 
- คว่ำแบตฯ แล้ว ควรเติมน้ำกรดหรือน้ำกลั่น แล้วจะใช้งานได้อีกนานจริงหรือไม่ / ไม่ควรคว่ำแบตฯทุกกรณี เพียงแต่ชาร์จให้นานพอจนกระทั้งน้ำกรดลอยได้ถพ.1580 อาจต้องใช้เวลา 6 ชั่วโมง 10 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นก็ได้ การคว่ำแบตทำให้ค่าของกรดเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้แบตฯ เสื่อมเร็ว กรณีแบตฯที่หมดสภาพแล้ว (แผ่นแตก,แผ่นเลื่อน ฯลฯ) ก็ต้องทำใจครับ เพราะถ้าคว่ำแล้วนำกลับมาใช้ได้อีกจริง ๆ ของใหม่คงขายไม่ได้ แต่นี่ของใหม่ก็ขายกันโครม ๆ 
- แบตฯ น้ำหรือแห้งดีกว่า ขึ้นกับลักษณะการใช้งานครับ กรณีรถใช้งานหนักเช่นแท็กซี่ ไม่ควรใช้แบตแห้ง ควรใช้แบตฯ น้ำ เพราะเติมน้ำได้เมื่อระดับน้ำลดลง แบตแห้ง(ข้างในมีน้ำทุกลูก)ถ้าน้ำแห้งเติมน้ำไม่ได้เพราะไม่มีช่องเติมน้ำ น้ำแห้งก็จบครับ เสียเงินอีกแล้ว 


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP



  แบตเตอรี่รถยนต์นั้นมีอายุงานใช้ได้เพียง 2 ปีครับโดยประมาณนี้ แต่มันอาจมี บวก / ลบ บ้างขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งมีปัจจัยจากความร้อนมากที่สุดที่จะเห็นผลได้ชัดเจนครับ วิ่งมากวิ่งน้อยก็มีส่วนครับ แต่โดยรวมค่าเฉลี่ยมันจะประมาณนี้ละครับ 2 ปี ก็ควรจะเปลี่ยนได้แล้วเพื่อความสะดวกสบายเวลาใช้งานทุกเมื่อไม่ต้องมานั่งลุ้นให้กังวลใจเล่นครับแบตเตอรี่รถยนต์นั้นมีอายุงานใช้ได้เพียง 2 ปีครับโดยประมาณนี้ แต่มันอาจมี บวก / ลบ บ้างขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งมีปัจจัยจากความร้อนมากที่สุดที่จะเห็นผลได้ชัดเจนครับ วิ่งมากวิ่งน้อยก็มีส่วนครับ แต่โดยรวมค่าเฉลี่ยมันจะประมาณนี้ละครับ 2 ปี ก็ควรจะเปลี่ยนได้แล้วเพื่อความสะดวกสบายเวลาใช้งานทุกเมื่อไม่ต้องมานั่งลุ้นให้กังวลใจเล่นครับ


Install by khemtat-l[at]hotmail.com

TOP

กลับไปยังรายบอร์ด
Image Hosted by CompGamer Image Host Image Hosted by CompGamer Image Host