powertig

รบกวนสอบถามครับหากปิดเสียงไว้แต่มีเลียงดัง แต็กๆที่ลำโพงหลัง 6.5 " 180W ทั้ง 2 ดอก เกิดจากอะไรครับเนื่องจากผมเพิ่งไปติด power amp 4 CH 400 W เพิ่มมา แต่เปิดดังๆ ลำโพงไม่แตกครับ ขอบคุณครับ

oxygenSound

วิธิดุว่า...sub  กินวัตน์ไหมดุตรงใหนครับสังเกตจากอะรัย ...
Lnwclassic โพสต์เมื่อ 28/1/2011 18:51

    สงสัย จะได้คำตอบแล้ว ดูที่ค่าวัตต์ RMS ครับ ว่ากินอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะค่า RMS คือค่าที่กระแสไฟกินอย่างสม่ำเสมอ ครับ

oxygenSound

รบกวนสอบถามครับหากปิดเสียงไว้แต่มีเลียงดัง แต็กๆที ...
powertig โพสต์เมื่อ 21/2/2011 09:04

    อาจลองเช็ค ที่อุปกรณ์ดูครับ

chavang_a

เคยไปซือ ฟร้อน ที่ร้าน เจ้าของใจดี คุยดี มาก อยากสอบถาม รถผม ฮอนด้า ซิตี้ 2003 ตอนนี้ ใช้ PC Car เป็น คอมพิวเตอร์
ต่อเสียงเข้า ฟร้อน แล้ว ขับลำโพงโดยตรง ถ้าผมจะเอา ฟร้อน ออก แล้ว ใช้คอม อย่างเดียว ช่วยจัดชุดเครื่องเสียง ที่รองรับให้หน่อย ด้วยครับ เป็น ลำโพง สองทาง แกนแยก  คู่หน้า +หลัง แล้วก็ ซับ 1ดอก  (อยากตีเป็น ตู้ซุ้มล้อครับ )ขอบคุณ ล่วงหน้า ครับ

oxygenSound

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29/5/2011 21:17 โดย chavang_a

เคยไปซือ ฟร้อน  ...
chavang_a โพสต์เมื่อ 29/5/2011 21:15

ไม่รู้ว่าทำไปแล้วหรือยังครับ
ในระบบนี้ ที่เคยเห็นกัน อาจมี Proceser มาเกี่ยวด้วย ( ยังไม่เคยทำครับ ) เช่น bit one เป็นต้น
ส่วนเครื่องเสียงอย่างไร ต้องบอกคาแล็คเตอร์ มาครับ ไม่มีปัญหาครับผม

oxygenSound

งานในระบบ Front Stage กับ ลำโพง 3 ทางครับ

oxygenSound

เรื่องการ Damp รถยนต์

การ damp รถในแต่ละคันนั้น มีส่วนที่ต้องคำนึงในจุดที่ damp มีทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกันคือ
1. ประตู
2. หลังคา
3. พื้นรถ
ไล่ตามลำดับความสำคัญจาก 1-3 ครับ
วัสดุที่ใช้ในการ Damp มีวัสดุใหญ่ ๆ มี 3 แบบ ครับ คือ
1. Damping ที่เป็นลักษณ์คล้ายยาง มีสีดำเป็นส่วนมาก ( อันนี้นิยมมากในบ้านเรา )
2. Damping ที่เป็นฟรอย คือมีด้านหนึ่งเป็นเนื้อยาง และอีกด้านหนึ่งเป็นฟรอย
3. Damping ที่เป็นโฟม มีหลายอย่าง และแต่ละความหนา

หลักในการ Damp มีหลายสูตรด้วยกัน
มีทั้ง ญึ่ปุ่น ยุโรป อเมริกัน และ พี่ไทยครับ
มีที่ ญึ่ป่น ยุโรป ที่คล้าย ๆ กัน คือ การ Damp โดยใช้พื่นที่ เพียง 70-80% ก็ให้ผลได้ 100%
แต่ทาง ญี่ปุ่นนั้น มีรายละเอียดมากกว่า คือ ต้องมีการฟังไป damp ไป เลือกวัสดุ ในการ damp ประตู กว่าจะเสร็จสักบานคงปาไปบานละวัน  
ส่วนทาง ยุโรป นั้น ใช้วิธีการ เคาะ แล้วฟังเอา เรียกได้ว่า เป็นการหาเสียงเป็น กับ เสียงตาย ซึ่ง ประตูนั้น จะมีแผ่นเหล็กอยู่ แผ่นเหล็กนั้นหละ จะประกอบไปด้วย เสียงเป็นกับเสียงตาย หากเป็นเสียงตายอยู่แล้ว ทำการ damp เพิ่มเข้าไปอีกก็คงเรียกได้ว่า ตายสนิท 555 ซึ่งในส่วนตรงนั้นก็ควรเว้นไว้ก็ได้ครับ เพราะเป็นเสียงตายอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้อง damp เข้าไป แต่หากต้องเน้นให้ได้ทุกรายละเอียดของเสียง คงต้องฟังไป Damp ไป อย่างที่ ญี่ปุ่น เค้าทำกันครับ ซึ่งทางญี่ปุ่น หรือ ยุโรป นั้น ในการติดตั้ง อุปกรณ์ ต่าง ๆ เล็ก ๆ ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก ผู้บริโภคจะติดตั้งกันเอง โดยแต่ละบ้านจะมีอุปกรณ์ เครื่องไม้ เครื่องมือ กันไว้บ้าง ( เหมือนในหนัง โรงเก็บรถ ประมาณนั้นอะครับ )
ประตู - ตำแหน่งในการ Damp มีทั้งหมด 3 จุด ด้วยกันครับ คือ
1. แผ่นประตูแผ่นในสุด  ที่เป็นชิ้นเดียวกันกับตัวรถชิ้นนอก ( จุดนี้ มีทั้งเสียงเป็น และ เสียงตาย )
2. แผ่นโครงด้านใน ที่มีแผ่นพลาสติกปิดอยู่ ( ที่ของ honda เรา มียางเหนียว ๆ ยื้ม ๆ อะครับ ) ( จุดนี้ก็มีทั้งเสียงเป็น และ เสียงตาย )
3. แผ่นแผงพลาสติก ที่ประตู จุดนี้ ก็ต้อง Damp ด้วยเช่นกันครับ
ส่วนในรายละเอียดต้อง Damp อย่างไรนั้น จะมาบอกเพิ่มในครั้งหน้าครับ ( ว่าจะเปิดสอนเรื่อง Damp ซะเลย ใครสนใจ ลองฝากชื่อไว้นะครับ )

oxygenSound

ในส่วนของการ Damp หลังคา เป็นส่วนสำคัญอันดับสอง รองมาจากประตูครับ ( หลาย ๆ ท่านจะเข้าใจว่าเป็นพื้น ซึ่งจริง ๆ แล้วหลังคาสำคัญมากกว่า แต่พื้นก็สำคัญ )
วัสดุที่ควรนำมาใช้ควรเป็น Damp ชนิด ฟรอย ครับ เพราะ damp ชนิดนี้มีน้ำหนักเบา เกาะติดได้ดี ไม่ตก และช่วยเรื่องของการกันความร้อนด้วยครับ ทำให้แอร์ทำงานได้เบาลง ประหยัดน้ำมันขึ้นครับ
และ ใช้วัสดุที่เป็นฟองน้ำ มาปิดทับอีกหนึ่งชั้น รับประกันได้เลยว่า เสียงฝนที่ตกใส่หลังคา เหมือนหลังคาจะพังลงมา ดีขึ้นอย่างมาก ๆ แน่นอนครับ






ในเรื่องของพื้น ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่ผมจัดให้เป็นอัดดับสุดท้ายเลย  
Damp ที่ใช้ก็ใช้เป็น Damp ยาง หรือ ฟรอย ในบางจุดก็ได้ครับ แล้วทับด้วย damp โฟมอีกชั้นเป็นอันสมบูรณ์แบบครับ






รถที่ทำเครื่องเสียง หรือ ไม่ทำเครื่องเสียงก็ตาม โดยส่วนตัว ผมให้ความสำคัญในเรื่อง Damp มาก ๆ ครับ

oxygenSound

มีบริการเช็คระบบไฟรถฟรี ทั้งคันให้ครับ หรือ
เพื่อน ๆ ท่านใดจะมาถอดเครื่องเสียงออกก่อนแล้วค่อยมาใส่หลังน้ำลด โดยเราได้รับฝากเครื่องเสียงของท่าน ทั้งหมดให้ครับ
และมีบริการสักพรมให้ด้วยครับ ในราคาช่วย ๆ กันครับ สอบถามได้ที่ 086 309 8768 ครับผม
( ลูกค้าที่ติดตั้งเครื่องเสียงจาก Oxygen Sound Car Stereo เพชรเกษม 51 ถอดเก็บใส่ใหม่ ฟรี ครับ )

oxygenSound

ส่วนเรื่องการเล่นเครื่องเสียงรถยนต์ ว่าเราจะจัดชุดลงอย่างไรดี ผมให้สูตรดังนี้ครับ คือ
40+30+30 % จากงบประมาณทั้งหมดที่คุณตั้งไว้
40% คือ การเลือกอุปกรณ์ เครื่องเสียงที่เหมาะกับความต้องการของคุณ และตัวคุณ ( อุปกรณ์หลัก เช่น Front Speaker Power amp / Subwoofer ) ให้ได้ก่อน ว่าคุณต้องการลงอะไรบ้าง ว่าของที่จะลง เป็น แบรนท์นี้ รุ่นนี้ แล้วต้องผ่าน Power amp หรือไม่ผ่าน Power amp ก็ดูจากระบบที่ว่างไว้
30% ตัวที่ 1 คือ อุปกรณ์ ชุดสาย การเชื่อมต่ออุปกรณ์ หนึ่งไปอีกอุปกรณ์หนึ่ง ก็มีความสำคัญไม่น้อย แต่จะลงแบบไหนอย่างไร สายก็คืออยู่กับคุณภาพของอุปกรณ์หลักเป็นเกนณ์ ครับ หากชุดเครื่องเสียงของคุณ ราคา ไม่กี่ร้อย กี่พัน( ต้น ๆ ) บาท ใส่สายเมตรละ 500 บาท ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรมากนั้น ดูที่ความเหมาะสมครับ + damp เรื่องนี้ก็สำคัญ คือ ต้องใช้ damp ให้ถูกต้อง ถูกส่วนในการใช้งาน คุณภาพเสียงจึงจะออกมาได้อย่างเต็มที่ ๆ สุดได้
30% ตัวที่ 2 คือ เรื่องความรู้ของงานติดตั้งครับ ว่าการติดตั้งชุดอุปกรณ์ที่คุณนำมาติดตั้งนี้ จะต้องเดินระบบอย่างไร มีข้อระวังอะไร อันนี้ เป็น know how ล้วน ๆ ครับ จะต้องรู้ก่อนว่า อุปกรณ์ที่คุณต้องอย่างไรบ้าง ศึกษาก่อนทำการติดตั้งนะครับ ( หากคุณให้ร้านติดตั้งให้ ก็ต้องดูก่อนว่า ร้าน ๆ นั้น มีความรู้ในเรื่องของงานติดตั้งมากน้อยแค่ไหน อันนี้เป็นตัววัดว่าควรมีค่าตัวอยู่ที่เท่าไหร่จึงเหมาะสม )

ศึกษาดี ๆ นะครับ วางแผนดี ๆ อย่าคิดแค่ค่าของ ลืมคิดอย่างอื่นไปด้วยเดี๋ยวจะบานปลาย