ตลาดซื้อ-ขายรถมือสองราคารับซื้อร่วง สะเทือนลูกค้า

chiangmaicar22

รองผู้จัดการบริษัทมาสเตอร์เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์ปอเรชั่น (เอเชีย) เผย ตลาดซื้อ-ขายรถมือสองในไทยช่วงไตร ต้องเผชิญกับภาวะไม่มีรถยนต์เข้าสู่ตลาด (ซัพพลายชอร์ต) ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยของตลาดรถยนต์ใหม่ไม่สามารถส่งมอบได้

ประกอบกับระดับราคาซื้อ-ขายรถมือสองในตลาดอยู่ในภาวะตกต่ำ ส่งผลให้คนที่อยากขายรถยนต์ไม่อาจยอมรับกับราคาซื้อของเต็นท์ได้ ซึ่งจัดเป็นปัญหาที่สะสมต่อเนื่องมาจากสถาบันการเงิน (ไฟแนนซ์) ที่ลดยอดอนุมัติสินเชื่อทำให้สถานการณ์ซื้อขายชะลอตัว

เมื่อไฟแนนซ์ลดยอดจัด ก็ทำให้ลูกค้าต้องวางเงินค่าดาวน์สูงขึ้น จากปกติที่ต้องใช้เงินดาวน์เพียง 10-15% ของราคา แต่เพิ่มเป็น 20-25% โดยตัวเลขที่เหมาะกับเงินดาวน์รถยนต์มือสอง คือต้องมีราคาต่ำกว่าเงินดาวน์รถยนต์ใหม่ 50%

เพื่อแก้ปัญหาต้องปรับเปลี่ยนการซื้อ-ขายรถมือสองเข้าสู่ดิจิทัล

เพื่อแก้ปัญหาบริษัทจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อ-ขายรถมือสองเข้าสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่ช่วยให้การซื้อขายรถยนต์มือสองสามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้น จนได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดที่มีการซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่ผู้บริโภคใน กทม.ที่ซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ที่ 10%

นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีแผนการปรับโฉมโชว์รูมบริษัทซื้อ-ขายรถมือสองให้เป็นรูปแบบใหม่ที่สาขาประดิษฐ์มนูธรรม โดยจะมีการปรับเปลี่ยนให้เป็นระบบดิจิทัลโชว์รูมทั้งหมด ที่จะกลายเป็นสาขาต้นแบบ ก่อนที่จะนำใช้ในการขยายโชว์รูมบริษัทสาขาอื่น

โดยหลังจากนี้โชว์รูม,ซื้อ-ขายรถมือสองจะมีขนาดเล็กลงและมีนำรถมาโชว์เพียง 1-2 คันเท่านั้น ซึ่งจะมีการสต๊อกรถไว้ที่ส่วนกลางและให้ลูกค้าเลือกจากหน้าจออินเตอร์แอ็กทีฟ ทำให้ช่วยถลดการลงทุนได้จำนวนหลายล้านบาท ทั้งยังส่งผลดีต่อการบริหารค่าใช้จ่ายและต้นทุนการขายอีกด้วย

ทั้งนี้เว็บไซต์ https://www.toyotasure.com/web/faq/faq_static2.aspx ก็จัดเป็นอีก 1 ช่องทาง ในการซื้อ-ขายรถ หรือเรียกได้ว่าเป็นอีก 1 โชว์รูป จากพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก ดังนั้น บริษัทจึงต้องทำการให้ข้อมูลต่อตลาดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น.