- โพสต์แล้ว
- 6
- ตั้งกระทู้
- 6
- ระดับการใช้งาน
- 10
- ออนไลน์
- 44 ชัวโมง
- สมัครสมาชิกเมื่อ
- 23/9/2010
- เข้าระบบล่าสุด
- 30/3/2012
    
|
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11/7/2011 16:10 โดย niranam
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11/7/2011 15:58 โดย niranam
ขอตอบกลับนะครับ เรื่องค่าพลังงาน ของน้ำมันแต่ละชนิด น้ำมันก็คือกลุ่มของของเหลว ที่มีการเผาไหม้เหมือนกัน
อัตราความเร็วการเผาไหม้ใกล้เคียงกัน กรรมวิธีการแปลงพลังงาน ความร้อนเป้นพลังงานกล เหมือนกัน ทุกอย่าง
ค่าพลังงานจึงเป็นค่าตัวแปรที่สำคัญในการเปรียบเที่ยบ ที่ผมบอกอย่างนั่นเพราะผมเรียนทางด้านวิศวกรรมยานยนต์
มาผมถึงใช้ความรู้กรั่นกรองข้อมูลที่สำคัญมาเปรียบเทียบ
เทคโนโลยีที่ใช้ทำการดเผาไหม้คือ เครื่องยนต์ i-vtec 1500 cc เป็นกลไกเดียวในการแปลงค่าพลังงานความร้อน
ให้เป้นพลังงานกล ในเมื่อตัวแปรทุกอย่างถูกจำกัดไว้ด้วยเทคดนโลยีเครื่องยนต์นี้ ดังนั้นตัวแปรเดียวที่จะสามารถ บ่งชี้
ถึงความแตกต่างของน้ำมันแต่ละชนิดคือ ค่าความร้อน
กฎของพลังงานคือ พลังงานเข้า = พลังงานออก
ถ้าพลังงานเข้า มีค่าน้อย = พลังงานออกมีค่าน้อยตาม
มีทางเดียวคือ ต้องเพิ่มพลังงานเข้าไป หรือไม่ก็ เพิ่มความเข้มข้นของสสาร ด้านพลังงานเข้า คุณคงเข้าใจ
ถ้าจะให้พลังงานเข้าเท่าเดิม แต่ให้พลังงานออกเพิ่มขึ้น
มีทางเดียวคือต้องเปลี่ยนกรรมวิธีการแปลงค่าพลังงานหรือพัฒนาอุปกรณ์นั้นให้ใช้พลังงานได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
หรือพูดง่ายๆ คือ ต้องเปลี่ยน เทคโนโลยีของ i-vtec ใหม่ให้ใช้พลังงานได้คุ้มค่ามากขึ้น
ดังนั้น แค่คำนวณ ค่าพลังงาน และราคาน้ำมัน เปรียบเที่ยบกัน ก็พอสรุปได้แล้ว ที่เหลืออยู่ที่การจูน
ถ้าจูนบาง ก็ประหยัดได้เช่นกัน แต่รอบจะตกที่ความเร็วสูง ถ้าตัว ecu สามารถปรับและเลือกได้
แบบความเร้วต่ำประหยัดไป 15% ความเร็วสูงกินปกติ มันก็ประหยัดได้ อยู่ที่เทคโนโลยีการปรับสัดส่วนน้ำมันล้วนๆ
คุณตอบแบบกำปั้นทุบดินเกินไป ไม้ ไดนาไมค์ อะไรนั่นกรรมวิธีการใช้ความร้อนมันต่างกัน เหตุผลการใช้พลังงานก็ต่างกัน
แบบนั้น แค่ค่าพลังงาน ก็ใช้วัดไม่ได้อย่างที่คุณบอก ลองทบทวนดูให้ดี ถือว่าแลกความรู้กัน
เป้าหมายในการใช้ e85 คือลดภาระค่าน้ำมันลง 20-40% อย่างที่ e85 kit บอกไว้
แต่ที่ผมคิดเปรียบเที่ยบดู ได้ที่ 15-20% ของราคาน้ำมัน ยังไม่รวมเรื่องจุกจิกของระบบน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ไม่แน่ชัด อาจไม่มากแต่ชวนปวดหัว
คำตอบที่ดีที่สุดคือ การขับระยะทางไกลแล้ววัดระยะทางคิดเงินออกมา หักลบเป้นเปอร์เซนต์ออกมา
ถ้ามีข้อมูลส่วนนี้มา เรื่องทษฎีอะไรนั่นก็ไม่ต้องพูดถึงเลย ที่พูดถึงเพราะมันไม่มีใครเอามาโชว์ให้ดู แต่แต่คำพูดเป็นค่า % ทางทฤษฎีกัน
city ผมวิ่ง กทมไปลำปาง ที่ความเร็วเฉลี่ย 100 km/h พัก 2 จุด หมดค่าน้ำมันไปประมาณ 1200 บาท ที่ระยะทาง 590 km เติม เบนซิน 91 e10.
ตก 2.04 บาท ต่อ km ถ้าe85 kit ทำให้วิ่งไกลใช้เงิน 1.3-1.6 บาท/กม ได้ มันถึงจะน่าเชื่อถือ ไม่ทราบว่า ก่อนเอามาขายมีทดสอบให้ลูกค้าดูกันบ้างยังคับ
ที่ผมค้านก็เพราะผมคิออยู่เสมอว่า ก่อนที่เราจะขายอะไรสักอย่างให้ลูกค้า เราต้องพิสูจเองก่อน ให้เป้นจุดขาย ให้ลูกค้าเห็นข้อดี ถึงความประหยัด
แล้วถ้าเขารู้ เขาทราบ เขาก็จะใช้ และเอามาแบ่งประสบการณ์ที่ได้ให้เพื่อนๆฟัง เหมือนแกส ที่มีคนนำเอา ข้อมูลระยะทางการใช้น้ำมัน มาแบ่งให้ทราบจนทั่วกัน
และทำให้มั่นใจกันทั่วหน้า และต่างก็คำนวณราคา จุดคุ้มทุนที่ตนเองพอใจ และยอมที่จะจ่าย เพื่อแลกกับการลดลงของภาระค่าใช้จ่าย |
|