เคล็ดลับ 5 อันดับแรกในการรักษารถของคุณให้อยู่ในสภาพดี

isabellela

สำหรับพวกเราส่วนใหญ่รถของเราคือเส้นเลือดใหญ่ของเรา โอเคนั่นอาจจะดูน่าทึ่งไปหน่อย แต่เราต้องพึ่งพารถของเราในหลาย ๆ เรื่อง และในขณะที่เราต้องเผชิญกับการอ้างสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์พิเศษที่จะทำให้รถของเราอยู่บนท้องถนนไปชั่วนิรันดร์ แต่ก็ไม่มียาวิเศษใด ๆ ในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากรถยนต์ของเรา
หากต้องการทำตามโปรแกรมการบำรุงรักษาอย่างง่ายหรือไม่ปฏิบัติตามโปรแกรมการบำรุงรักษาอย่างง่าย?
ข่าวดีก็คือการดูแลรถของคุณไม่ใช่เรื่องยากเลยเมื่อคุณรู้กฎพื้นฐานในการบำรุงรักษาแล้ว การปฏิบัติตามกฎเหล่านี้สามารถทำให้รถของคุณวิ่งได้นานกว่าที่คุณเคยคิดไว้ แม้ว่าการลองใช้กลไกใหม่ล่าสุดในตลาดอาจเป็นเรื่องน่าสนใจ แต่คุณควรยึดติดกับตารางการบำรุงรักษาที่เรียบง่ายสำหรับรถของคุณ สล็อต

ทำให้มันง่าย
คุณอาจเคยได้ยินหรือรู้จักใครบางคนที่เป็นเจ้าของรถที่มีเลขไมล์ไร้สาระ คุณอาจเคยได้ยินหรือรู้จักใครบางคน (อาจเป็นคุณคนนั้น) ที่มีรถให้ออกหลังเครื่องหมาย 100,000 ไมล์ ความแตกต่างระหว่างรถทั้งสองรุ่นมีมากกว่ายี่ห้อและรุ่นเท่านั้น มักจะเป็นกรณีที่ความแตกต่างหลักคือความสม่ำเสมอของตารางการบำรุงรักษา โชคดีที่คุณดูแลรักษารถของคุณได้ดีเพียงใดก็อยู่ในการควบคุมของคุณ
ไม่มีเคล็ดลับในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากยานพาหนะของคุณ ด้วยการทำตามขั้นตอนง่ายๆเพียงไม่กี่ขั้นตอนคุณสามารถกลายเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ดูเหมือนว่ารถจะแล่นไปเรื่อย ๆ รักษาค่าซ่อมและรถของคุณบนท้องถนน
ตรวจสอบและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ
นี่อาจเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นเป็นเวลานาน การตรวจสอบระดับน้ำมันของคุณอย่างน้อยเดือนละครั้งคุณจะรู้ว่ารถของคุณใช้น้ำมันมากน้อยเพียงใดและช่วยให้คุณตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดขึ้น
เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่าควรทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 3,000 ไมล์หรือ 3 เดือนแล้วแต่ว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน คำแนะนำนี้มาจากช่วงที่น้ำมันเครื่องยังไม่ก้าวหน้าเหมือนในปัจจุบัน ในอดีตหากน้ำมันถูกทิ้งไว้ในถังเหวี่ยงนานเกินไปน้ำมันจะเริ่มย่อยสลายซึ่งทำให้เกิดการสะสมของตะกอน น้ำมันเครื่องในปัจจุบันไม่ได้สลายตัวเร็วดังนั้นจึงไม่ทำให้เกิดการสะสมของตะกอนอย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์ยังได้รับการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและตอนนี้สามารถทำงานได้นานขึ้นโดยมีการบำรุงรักษาน้อยลง เนื่องจากความก้าวหน้าเหล่านี้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายจึงแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนน้ำมันทุกๆ 5,000 หรือ 7,500 ไมล์
ไม่ว่าคุณจะเลือกปฏิบัติตามกำหนดการบำรุงรักษาใดมีหลายปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณา ตัวอย่างเช่นหากคุณขับรถแบบหยุดนิ่งบ่อยครั้งมีรถอยู่เฉยๆหรือขับรถในสภาพอากาศเลวร้ายคุณอาจต้องเปลี่ยนน้ำมันบ่อยขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ารถทุกคันมีความแตกต่างกันและมีความต้องการที่แตกต่างกัน เมื่อตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยเพียงใดและควรใช้น้ำมันประเภทใดควรดูสิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำและไปจากที่นั่น
ล้างระบบทำความเย็นและเปลี่ยนสารหล่อเย็น
น้ำมันเครื่องไม่ใช่น้ำมันชนิดเดียวในรถของคุณที่ต้องได้รับการตรวจเช็คเป็นระยะแม้ว่าจะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบและเปลี่ยนบ่อยเท่ากัน แต่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์และส่วนต่างตามช่วงเวลาที่กำหนดเช่นกัน หลักการทั่วไปคือการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ 30,000 ไมล์ แต่คุณควรอ่านคู่มือการใช้งานของคุณเพื่อดูว่ามีอะไรแนะนำสำหรับยี่ห้อและรุ่นของคุณ
หากคุณมีรถขับเคลื่อนล้อหน้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย ทำไม? เนื่องจากในระบบขับเคลื่อนล้อหน้าส่วนต่างจะอยู่ที่ด้านหน้าและแบ่งปันของเหลวกับระบบเกียร์ของคุณ ในระบบขับเคลื่อนล้อหลังน้ำมันดิฟเฟอเรนเชียลจะอยู่ที่ด้านหลังในขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อจะมีเฟืองท้ายสามตัว - หนึ่งตัวอยู่ด้านหน้าหนึ่งตัวอยู่ตรงกลางและอีกอันที่อยู่ด้านหลัง ควรเปลี่ยนน้ำมันส่วนต่างนี้ในช่วงเวลาเดียวกันกับน้ำมันเกียร์