ขนมหวานและกาแฟ ความอร่อยที่มาคู่กับบรรยากาศดีๆ

samedi

ขนมหวานและกาแฟ ความอร่อยที่มาคู่กับบรรยากาศดีๆ

การนั่งจิบ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชนิดซอฟคริงค์ พร้อมกับขนมหวานหรือของว่างในช่วงสิบปีมานี้ ถือได้ว่า เข้ามามีบทบาทใน "ไลฟ์สไตล์" ของผู้คนในปัจจุบัน เป็นอย่างมาก (โดยเฉพาะกลุ่มชนที่เรียกกันว่า "คนเมือง") บางคนว่า แค่ได้มานั่งรับประทานของอร่อยและดื่มดำไป กับรสชาติของเครื่องดื่มรสละมุนกับบรรยากาศสบายๆ เท่านี้ก็ซวยเติมความมีชีวิตชีวาให้อีกครั้งหลังผ่านพ้น วันอันแสนเคร่งเครียดกับการทำงาน โดยบาคาร่า
หลายๆคนเมื่อนึกถึงคาเฟ ก็คงนึกถึงภาพดาเฟเก๋ๆ ที่ตั้งโต๊ะเรียงรายบนบาทวิถี ที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ เวลาดื่มดำกับบรรยากาศโรแมนติก อย่างคาเฟสไตล์ปารีส หรือคาเฟบรรยากาศโอโถง โต๊ะหินอ่อนและเก้าอี้บุหนัง ขัดมัน อย่างคาเฟสไตล์เวียนนา หรือคาเฟสไตล์น่ารักดู อบอุ่นที่ถูกใจใครหลายๆคนแบบคาเฟญี่ปุ่น แต่ไม่ว่าคาเฟ่ สไตล์ไหน ก็มักจะมีขนมหวานหรือของว่างอร่อยๆ หน้าตา นรับประทานให้ได้หล่อลิ้นเลี้ยงต่อมรับรสอยู่ทุกร้านไป ประเทศไทยเองก็ใช่ว่าจะไม่มีคาเฟในแบบฉบับ เฉพาะ คาเฟที่ขายกาแฟ เครื่องดื่ม ขนมหวาน และ อาหาร เกิดขึ้นมากมายตามเมืองใหญ่ เมืองเล็ก ทั้งใน รูปแบบของแฟรนไชส์ เหมาะกับชีวิตแบบ "urban lifestyle" ที่มักมีมากมายตามห้างสรรพสินด้ หรือคาเฟสไตล์ "home and garden" ซึ่งส่วนมากมักนำบ้านส่วนตัวที่มีบริเวณ มีสวน มีสนามหญ้า มาดัดแปลงเป็นคาเฟ่บรรยากาศ สบายๆแบบบ้านในฝัน คาเฟสไตล็ไทยเหล่านี้นอกจากจะ มีเครื่องดื่มอย่าง ชา กาแฟ และซอฟท์ดริงค์แล้ว สิ่งที่เรียก ได้ว่าเป็นดาวเด่นเลยก็คือ ขนมหวานต่างๆ ซึ่งนับวัน จะโดดเด่นแทนเครื่องดื่มไปเสียแล้ว อีกทั้งแต่ละร้าน ก็สร้างสรรค์เมนูของหวานแสนอร่อย ออกมาอยู่เสมอ ประเภทของแป้ง แบ่งตามส่วนผสมหลัก
1.        แป้งชูส์ (choux pastr) แป้งขนมเนื้อเบา สำหรับ ใช้ทำขนมประเภท ซูส์ เอแคลร์ โปรฟิตเตอโรล ได้จากการ ผสมแป้งสาลี เนย และของเหลว เช่น นมสุดหรือน้ำเปล่า แล้วนำไปผัดในหม้อผสมให้สุกจึงเติมไข่ลงในส่วนผสมตอน ท้าย การพองฟูของเนื้อแป้งไม่ได้กิดจากผงฟู หรือยีสต์แต่ อย่างใด แต่เกิดจากความชิ้นในส่วนผสม ซึ่งเมื่อผ่านความ ร้อนจะระเหยกลายเป็นไอน้ำดันตัวให้เนื้อขนมพองฟู เป็น ลูกกลมคล้ายกะหล่ำปลีหัวเล็กๆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ("choux" ในภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่า "กะหล่ำปลี") แป้งซูสถูกพัฒนาขึ้นโดยพ่อครัวชาวฝรั่งเศส Marie Antoine Careme
2.        โฌกงด์บิสกิต (Joconde biscuit) แป้งเค้กผสม อัลมอนด์ปุ่นสไตล์ฝรั่งเศส ตั้งชื่อตามภาพ Mona Lisa (เรียกเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า La Joconde) แป้งชนิดนี้นอกจาก ผสมอัลมอนด์ป่นแล้ว วิธีการทำยังแตกต่างจากแป้งเค้กชนิด อื่นอีกด้วย โฌกงด์บิสกิตจะต้องนำไข่ไก่ น้ำตาลทราย และ เนยละลายตีผสมกับอัลมอนด์ปนเพื่อทำอัลมอนด์ครีมก่อน จากนั้นจึงตะล่อมเมอแรงค์ผสมให้เข้ากันโฌกงด์บิสกิตเมื่อ ผสมส่วนผสมเสร็จแล้วจะถูกปาดลงบนถาดอบ ซึ่งจะต้อง ไม่หนาจนเกินไป (ระหว่าง 5 มิลลิเมตร-1 เซนติเมตร) ส่วนมากนำไปใช้ทำขอบนอกของขนมประเภทมูส หรือเรียง เป็นชั้นสลับกับเนื้อครีม อย่างใน "โอเปรา" (Opera)
3.        มูส (mousse) ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง มีเนื้อสัมผัสคล้ายครีมหรือเยลลีแต่ฟูและเบากว่า มสได้จาก การผสมไข่ขาวหรือวิปปิ้งครีมที่ตีให้ขึ้นฟูแล้วกับส่วนผสม เหลว เช่น ช็อกโกแลตละลาย พูเรผลไม้ ดัสตาร์ด พุดดิ้ง แล้วนำไปแช่เย็นให้อยู่ตัว โดยส่วนมากมูสจะมีเจลลาติน เป็นส่วนผสมเพื่อทำให้อยู่ตัว แต่ในบางกรณีหากใช้ดาร์ก ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสม ตัวช็อกโกแลตจะทำหน้าที่ คล้ายเจลลาตินทำใหมูสอยู่ตัว) มูสมักถูกใช้เป็นส่วน ประกอบในขนมหวานหลายชนิด หรือจัดเสิร์ฟเดี่ยวๆได้เลย เช่น มูสช็อกโกแลต (mousse au chocolat)
4.        ขนมปัง (bread) ทำมาจากแป้งสาลีที่มีกลูเตนสูง (โปรตีนในแป้งสาลี) หรือที่เรียกันว่า "แป้งขนมปัง" ขนมปัง จะถูกนวดกับน้ำซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวประสาน (ขนมปิ้งบาง ชนิดใช้ไไก่ หรือนม) และยีสต์ ช่วยทำให้เนื้อขนมปิ้งขึ้นฟู การทำขนมปังจะต้องนวดแป้งขนมจนเนียนเข้ากันดี และ ต้องพักขนมปังไว้สักพัก (อุณหภูมิไม่เกิน 27 องศาเซลเซียส) เพื่อให้ยีสต์เจริญเติบโต พอที่จะทำให้เนื้อขนมปังฟูขึ้นเมื่อ นำไปอบ