เบี้ยประกันเลือกยังไงดี

unyana

สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ รายจ่ายถาถมเข้ามาทั้ง ค่าบัตร ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำไฟ มองเห็นใบรายจ่ายเรียกเก็บทีไรเหมือนจะเป็นลม เราจึงต้องมีกลยุทธ์วิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทุกอย่าง โดยเริ่มจากการประหยัดรายจ่ายแล้วเพิ่มรายรับเข้ามา แล้วรายจ่ายมีอะไรบ้างซึ่งแต่ละคนก็มีรายจ่ายไม่เท่ากัน บางคนก็ต้องประหยัดค่ากิน ค่าเที่ยวในแต่ละเดือน บางคนก็ต้องประหยัดการซื้อเสื้อผ้า ตัดการซื้อของที่ไม่จำเป็นออกไป บางคนมีบ้านก็ต้องหาการรีไฟแนนซ์ หรือบางคนมีรถก็ต้องประหยัดการใช้น้ำมัน หรือแม้แต่การหาเบี้ยประกันรถ ที่จำเป็นต้องมีการต่อต่อประกันรถทุกปี แล้วเราจะต่อประกันรถยนต์ไหนดี  ให้ตรงกับความต้องการในยุคนี้ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าและการประหยัด เราจึงมีเทคนิคการหาบริษัทประกันที่มีมาตรฐานความปลอดภัยร่วมไปถึงการดูแลช่วยเราประหยัดในเรื่องค่าใช้จ่ายได้ มาเริ่มกัน
1.ใช้รถบ่อยไหม ดูสภาพรถ
บางคนอาจจะได้ใช้รถมากน้อยแตกต่างกันไป บางคนถ้าเป็นรถใหม่มือหนึ่ง และก็ยังต้องใช้รถในการเดินทางที่บ่อย เช่น ใช้ทำงาน ไปส่งลูกไปโรงเรียน เราอาจจะต้องต่อประกันประเภทหนึ่ง แต่ก็ต้องดูว่า ประกันชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะใช้ในการตอบโจทย์ของเราว่าวงเงินหรือข้อเสนอที่ทางบริษัทเสนอมา มีความคุ้มครองที่น่าจะดูแลเราได้จริงไหม หรือเบี้ยแพงแต่วงเงินน้อย และข้อจำกัดการคุ้มครองเยอะเราต้องเลือกศึกษาดีๆ หรือบางท่านใช้รถนานหลายปี หรือท่านที่ออกรถมือสองอาจจะมองหาประกันชั้น 2 หรือ 3 ที่มีให้เลือกตามความเหมาะสมและการชำนาญในการขับรถ
2.ได้ประเภทประกันที่ต้องการ ควรหาบริษัทที่น่าเชื่อถือด้วย
พอเราตอบคำถามตามข้อแรกได้แล้วว่า ปีต่อไปจะต่อประกันประเภทไหน ให้เราทำการบ้านด้วยการหาข้อมูลบริษัทที่เราจะต่อประกันด้วย โดยในยุคนี้วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดน่าจะเป็นการหาข้อมูลเปรียบเทียบกันบนเว็บไชน์ โดยเราสามารถศึกษาข้อมูลรายละเอียดประเภทประกัน และกรมธรรม์คุ้มครองได้จากการข้อมูลที่ให้ โดยเราก็ต้องศึกษา พิจารณาเลือกให้ดีๆ บางทีอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวมาหลอกเรา เราจึงต้องมีตรวจสอบขั้นพื้นฐานในกรณีที่บริษัทที่เป็นชื่อใหม่ หรือชื่อไม่คุ้นเคย โดยการโทรไปถามสำนักงานที่ให้บริการตรวจสอบในเรื่องพวกนี้ หรืออาศัยการถามผู้เชี่ยวชาญในการต่อประกันรถยนต์
3.ดูโปรโมชั่นให้ดีเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าเบี้ย
พอเราตัดสินใจเลือกแล้ว ซึ่งแต่ละบริษัทก็จะมีการคุ้มครองวงเงินที่ต่างกัน สิ่งที่หนึ่งที่เราต้องการในการต่อแต่ละครั้งคือการ ได้รับค่าส่วนลดจากเบี้ย เช่นบางบริษัทอาจให้สิทธิพิเศษ เป็นส่วนลดค่าเบี้ยเมื่อติดอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ กล้องติดหน้ารถ การระบุชื่อคนขับ หรือการมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติที่
3.เตรียมเอกสารให้พร้อม
การเตรียมเอกสารเป็นชั้นตอนสุดท้ายที่ใช้เวลาดำเนินการในแต่ละบริษัท ไม่เท่ากันบางบริษัทอาจจะช้าเร็วขึ้นอยู่กับจำนวนคิว แต่ถ้าเราช้าเกินไป อาจมีผลให้ประกันเราขาดไปเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะไม่ได้รับความคุ้มครอง แล้วต่อประกันรถยนต์ต้องใช้อะไรบ้าง
-        บัตรประชาชน
-        สำเนาทะเบียนบ้าน
-        คู่มือการจดทะเบียนรถ
-        ใบขับบี่
แค่นี้เราก็จะได้ประกันที่ตรงใจตอบโจทย์ทุกความต้องการของเราแล้ว