ต่อภาษีรถยนต์ และต่อประกันรถยนต์ต่างกันอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง

unyana

ต่อภาษีรถยนต์ หรือที่หลายคนเรียกว่าต่อทะเบียนรถยนต์นั้นคือสิ่งที่ต้องทำทุกปีตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก โดยเริ่มชำระภาษีรถยนต์ครั้งแรกเมื่อรถอายุครบ 1 ปี สามารถตรวจสอบวันที่ครบอายุได้บนป้ายสี่เหลี่ยมที่ติดอยู่ด้านหน้ากระจกรถ หากไม่ต่อตามระยะเวลาที่กำหนดมีสิทธิ์โดนตำรวจจับปรับไม่เกิน 2,000 บาท และหากไม่ได้ต่อ พ.ร.บ. ด้วยจะโดนปรับอีกไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งยังต้องเสียค่าปรับเกินกำหนดเป็นจำนวน 1% ของภาษีรถต่อเดือนจนถึงวันชำระอีกด้วย หากขาดการ ต่อภาษีรถยนต์ เป็นระยะเวลาเกิน 3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับทันทีไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้ เช่น การเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนสีรถ หรือแก้ไขรายการคู่มือรถได้ ทั้งนี้สามารถต่อภาษีรถยนต์ล่วงหน้าได้ก่อนวันหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน หรือ 90 วัน และอายุทะเบียนจะต่อจากวันเดิมที่หมดอายุไม่มีการร่นระยะเวลาลงแต่อย่างใด

เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อดำเนินการ ต่อภาษีรถยนต์ ได้แก่
เล่มทะเบียนรถยนต์หรือสำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์
หน้าตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ. รถยนต์ฉบับปัจจุบันที่ยังไม่หมดอายุ)
ใบตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) สำหรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี
สำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊ส NGV หรือ LPG ต้องใช้เอกสารรับรองการติดตั้งและตรวจสอบแก๊สรถยนต์
ค่าธรรมเนียม ซึ่งรถยนต์แต่ละประเภทนั้นมีอัตราการจัดเก็บภาษีที่แตกต่างกันไปตามประเภทของรถ ความจุกระบอกสูบ (ซี.ซี.) ปีที่จดทะเบียน และรายละเอียดอื่น ๆ ตามที่ระเบียบกรมการขนส่งทางบกกำหนด

       สำหรับ ประกันรถยนต์ นั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประกันภัยภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันภัยรถยนต์ที่เจ้าของรถทำเพิ่มเองภายหลัง ความแตกต่างที่ชัดเจนคือขอบข่ายของการคุ้มครอง  พ.ร.บ. รถยนต์ที่กฎหมายกำหนดให้ทำนั้นชดเชยเฉพาะความเสียหายเบื้องต้นที่เกิดกับผู้ขับ คู่กรณี และคนเดินถนนเท่านั้น โดยคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บจริง  ค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร รวมทั้งค่าปลงศพในกรณีที่เสียชีวิต แต่ไม่รวมค่าซ่อมแซมรถยนต์

        ส่วน ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจนั้นให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองรถยนต์ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีอีกด้วย ประกันรถยนต์นั้นมีให้เลือก 5 ประเภทด้วยกัน คือ ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 ประกันชั้น 2+, ประกันชั้น 3 และประกันชั้น 3+ โดยรายละเอียดในการให้ความคุ้มครองจะแตกต่างกันไป หากลองเปรียบเทียบแล้วสนใจ ต่อประกันรถยนต์ สามารถทำประกันผ่านทางระบบออนไลน์ได้เลย โดยให้กดเลือกซื้อแล้วกรอกข้อมูลผู้เอาประกันภัยให้ครบถ้วน จากนั้นกรอกรายละเอียดของรถยนต์ที่ต้องการทำประกัน เช่น สีป้ายทะเบียน เลขที่ตัวถัง เลขที่เครื่องยนต์ ชำระเงิน เสร็จแล้วให้กดเลือกว่าต้องการรับกรมธรรม์ผ่านทางอีเมลหรือว่ารับเอกสารทางไปรษณีย์ การันตีคืนเงิน 100% หากเจอข้อเสนอที่ถูกกว่า


         การ ต่อประกันรถยนต์ แนะนำว่าให้ทำพร้อมกับการต่อภาษีรถยนต์และต่อ พ.ร.บ. เพื่อความสะดวกในการจัดเตรียมเอกสารและการดำเนินการ รวมถึงเพื่อไม่ให้หลงลืมหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจะได้มีหลักประกันในการคุ้มครองความปลอดภัย  ซึ่งตอนนี้สามารถชําระภาษีออนไลน์ ได้แล้ว