ชื่อกระทู้:
การดูแลหม้อน้ำรถยนต์
[สั่งพิมพ์]
ผู้โพสต์:
theboy769
เวลา:
1/6/2010 11:27
ชื่อกระทู้:
การดูแลหม้อน้ำรถยนต์
หม้อน้ำของรถยนต์ ทำหน้าที่ควบคุมการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ให้อย ู่ในอุณหภูมิการทำงาน ซึ่งอยู่ระหว่าง 85 – 92 องศาเซลเซียส
ตัวของหม้อน้ำมีลักษณะค่อนข้างบอบบาง ใช้งานได้นานหลายปี เพียงแต่มีราคาค่อนข้างแพงอยู่ไม่น้อย และหากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง หรือถูกวัสดุแข็ง ๆ กระแทกหรือทิ่มเพียงเล็กน้อย ส่วนรังผึ้งของหม้อน้ำก็อาจจะชำรุดเสียหายได้ง่าย ๆ
ดังนั้น เพื่อให้หม้อน้ำรถยนต์อยู่คู่กับรถยนต์ของท่านไปนาน ๆ ก็ควรดูแลรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหม้อน้ำเกิดปัญหาขึ้นมา เครื่องยนต์จะเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด เป็นลำดับต่อไป เครื่องยนต์อาจจะร้อนจัดขนาด OVER HEAT สิ่งที่ตามคือเงินในกระเป๋าสตางค์ของท่าน ต้องถูกควักจ่ายเพิ่มขึ้นนั่นเอง การดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์นั้นต้องทำอย่างไรกันบ้าง?
1.ควรตรวจดูระดับน้ำทุก ๆ ครั้งก่อนสตาร์ตเครื่องยนต์ หรืออย่างน้อยทุก ๆ 2-3 วัน สำหรับรถที่มีอายุเกิน 5 ปี และอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สำหรับรถใหม่อายุไม่เกิน 5 ปี ซึ่งปรกติระดับน้ำควรอยู่ตรงคอหม้อน้ำพอดี หรืออยู่ระหว่างกึ่งกลางขีด MAX และ MIN สำหรับรถที่มีหม้อพักน้ำ
2.ควรเติมน้ำที่สะอาดลงไปในหม้อน้ำเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้หม้อน้ำ หรือทางเดินของหลอดรังผึ้งหม้อน้ำเกิดการอุดตัน ถ้าเป็นไปได้ น้ำที่เราใช้ดื่มดีที่สุดสำหรับใช้เติมหม้อน้ำ
3.หมั่นตรวจดูรอยรั่วตามที่จุดต่าง ๆ อย่างเช่น ท่อยางหม้อน้ำ ครีบรังผึ้ง ปั๊มน้ำ ฯลฯ หากพบรอยรั่วซึม ควรทำการซ่อมแซมแก้ไขทันที
4.ตรวจดูสายพานหน้าเครื่อง ไม่ควรให้หย่อนหรือตึงเกินไป ตามปรกติเมื่อใช้มือกดลงบนสายพาน ควรยุบตัวลงประมาณ ½-1 นิ้ว
5.ตรวจดูครีบรังผึ้ง (FIN) ของหม้อน้ำ อย่าให้พับงอปิดช่องทางผ่านของลม ไม่ควรให้สกปรกด้วยดินโคลนและคราบน้ำมัน เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ยาก เครื่องยนต์อาจร้อนจัด และหากครีบพับงอ ให้ใช้ใบเลื่อยหรือโลหะบาง ๆ ดัดให้ตรง หรือถ้าครีบสกปรกมากให้ทำความสะอาดโดยใช้ลมเป่า หรือน้ำร้อนที่มีความดันสูงพอพ่นย้อนทิศทางลมเข้า
6.พัดลมระบายความร้อนควรอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกหัก หรือบิดงอเสียศูนย์ เพราะจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดได้ แต่ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า ต้องคอยตรวจเช็กว่าพัดลมหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมหรื อไม่ เพราะถ้าพัดลมหมุนด้วยรอบที่ช้าลง การระบายความร้อนให้หม้อน้ำรถยนต์ก็จะด้อยตามไปด้วย
7.ไม่ควรติดเครื่องยนต์โดยไม่ได้ปิดฝาหม้อน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดตะกรันในหม้อน้ำและภายในเครื่องยนต์ เนื่องจากน้ำในรังผึ้งหม้อน้ำระเหยออกมา เมื่อเกิดตะกรันในหม้อน้ำ หรือบริเวณท่อทางเดินน้ำในเครื่องยนต์มาก ๆ จะเป็นผลให้เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะการระบายความร้อนไม่ดีพอ
8.เกจวัดความร้อนต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หากเสียใช้การไม่ได้ให้เปลี่ยนใหม่ทันที
9.หากน้ำในหม้อน้ำแห้ง ในขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน และมีอุณหภูมิสูง ไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในทันที ให้ติดเครื่องเดินเบาสักระยะหนึ่ง พอให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ลดลง แล้วค่อย ๆ เติมน้ำที่สะอาดลงไปทีละน้อยด้วยความระมัดระวัง
10.ควรถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุก ๆ 4-6 เดือน หรือเมื่อเห็นว่าน้ำในหม้อน้ำสกปรกมากแล้ว เช่น มีสนิมหรือคราบน้ำมัน
ที่ว่ามาทั้งหมด 10 ข้อนี้ เป็นการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์ เพื่อที่จะให้เราใช้งานได้คุ้มค่ากับเงินที่เราต้องจ ่ายไป เวลาเปลี่ยนหม้อน้ำใบใหม่นั่นเอง
ผู้โพสต์:
OhoMilky
เวลา:
1/6/2010 11:35
เรื่องหม้อขอให้บอกครับ ดูแลอย่างดี..
ผู้โพสต์:
katawut_42
เวลา:
12/6/2010 17:45
เยื่ยมเลยคับ
ผู้โพสต์:
ชข3091
เวลา:
17/6/2010 15:52
ขอบคุณครับ
ผู้โพสต์:
teeneo
เวลา:
29/6/2010 22:48
จะนำไปใช้ครับ
ผู้โพสต์:
jotarofiatz
เวลา:
18/7/2010 12:00
เจ๋ง ไำปเลย
ผู้โพสต์:
pong_palm
เวลา:
24/8/2010 16:07
ดีเลยครับ...
ผู้โพสต์:
meemee
เวลา:
11/10/2010 18:01
หม้อน้ำอยู่ตรงไหน หาไม่เจอ
ผู้โพสต์:
tonhorm_180
เวลา:
11/10/2010 18:28
ขอบคุณครับ สำหรับเกร็ดการดูแล
ผู้โพสต์:
oumyim
เวลา:
12/10/2010 17:41
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
ผู้โพสต์:
punpae
เวลา:
16/10/2010 18:44
ขอบคุณ สำหรับข้อมูลครับ...
บางครั้งเป็นเรื่องที่เรานึกไม่ถึงเลย...
ผู้โพสต์:
city116
เวลา:
30/11/2010 10:27
การเติมน้ำยาหม้อน้ำก็มีประโยชน์นะครับ
1.เพิ่มจุดเดือนให้กับน้ำ
2.ป้องกันสนิม- ตะกัน และการกัดกร่อน
3.ป้องกันการเกินฟองอากาศในน้ำเวลาน้ำเดือน
4.มีความมันซึ่งจะช่วยหล่อลื่นปั๊มน้ำได้
การใช้น้ำยาหมอน้ำก็ควรใช้ให้ถูกต้องด้วย (ไม่ใช่เห็นน้ำเป็นสีเขียวแล้วก็คิดว่าเราได้เติมน้ำยาหม้อน้ำแล้ว)
*****โปรดระวังน้ำใสสี แล้วคิดว่าเป็นน้ำยาหม้อน้ำ******
* การผสมน้ำยาหม้อน้ำก็ควรผสมกับน้ำให้เสร็จก่อนที่จะเติมเข้าไปในหม้อน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความรุนแรงในการเกิดปฏิกิระยาของน้ำยาที่เข้มข้น อ่านทำให้หม้อน้ำท้อยางเสียหายได้ เช่นเดียวกับรถที่มีอายุ เวลาเปลี่ยนน้ำมันเบรค ก็อาจทำให้ซีล โอริง ท่อยาง บวมได้ เช่นกัน
* การเติมน้ำยาในหม้อน้ำก็มีส่วนผสมดังนี้
น้ำยา 33% น้ำเปล่า 67% เช่น สมมุติว่ารถต้องเติมน้ำ 5 ลิตร ก็ต้องเติมน้ำยาหม้อน้ำประมาณ 1.65 ลิตร น้ำเปล่า 3.35 ลิตร จะสามารถเพิ่มจุดเดือนให้กับน้ำสูงขึ้นประมาณ 126 *C
น้ำยา 50% น้ำเปล่า 50% เช่น สมมุติว่ารถต้องเติมน้ำ 5 ลิตร ก็ต้องเติมน้ำยาหม้อน้ำประมาณ 2.5 ลิตร น้ำเปล่า 2.5 ลิตร จะสามารถเพิ่มจุดเดือนให้กับน้ำสูงขึ้นประมาณ 129 *C
น้ำยา 70% น้ำเปล่า 30% เช่น สมมุติว่ารถต้องเติมน้ำ 5 ลิตร ก็ต้องเติมน้ำยาหม้อน้ำประมาณ 3.5 ลิตร น้ำเปล่า 1.5 ลิตร จะสามารถเพิ่มจุดเดือนให้กับน้ำสูงขึ้นประมาณ 136 *C
*ไม่ควรเติมน้ำยาเกิน 70% และถ้าเติมน้อยกว่า 33% ก็จะไม่มีประโยชน์
ยินดีต้อนรับสู่ HondaCityClub (http://hondacityclub.com/board/)
Powered by Discuz! 7.2