Board logo

ชื่อกระทู้: อาทิตย์นี้ถ้าเข้า 0 แล้วยังไม่หาย..ขายเต้นท์ทันที [สั่งพิมพ์]

ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 13/3/2013 08:42     ชื่อกระทู้: อาทิตย์นี้ถ้าเข้า 0 แล้วยังไม่หาย..ขายเต้นท์ทันที

อาการเกียร์ถอยหลังแล้วเครื่องสั่นแรง..
ซ่อมจุกจิกเยอะมาก..รุ่นนี้..เปลี่ยนยางแท่นเครื่องจาก 0 ทั้ง3ตัวก็ไม่หาย..หมดไปอีกหลายพันแบบสูญเปล่า..อ่านใน Pantip บอกว่ารถวิ่ง 200,000-250,000กิโล..เตรียมซ่อมเกียร์ อย่างน้อย 25,000-30,000บาท ถ้าเข้า 0 ฮอนด้ายกเกียร์ 150,000บาท..รถผมไมล์245,000กิโล..ไม่มีเงินซ่อมแล้วคับ..รถเพิ่งซื้อมาเมื่อธันวาคม2555ที่ผ่านมา..ซ่อมไปเยอะมาก..นี่เกียร์จะมาพังอีกแล้วเหร๋อ...เริ่มมีอาการเข้าเกียร์ R เครื่องสั่นแรงมากสงสัยอาการเกียร์พังกำลังมาเยือน..ถ้าซ่อมไม่หายต้องตัดใจต้องขายแบบขาดทุน..ยอมเสียเงินหมื่นเอาเงินแสนกลับมาก่อน..(ว่าจะไปซื้อ Civic ตาโต Minor change ปี2000) ใจรักฮอนด้าคับ..^0^
ผู้โพสต์: sontrira    เวลา: 13/3/2013 09:13

ของผม 230000 โล เกี่ยวกับเกียร์เคยเปลี่ยนแต่ฟลายวีลครับ

เครื่องสั่นตอนนั้นเปลี่ยนยางแท่นเครื่องก็หายนะครับ

เป็นแบบนี้เซ็งแทนครับ
ผู้โพสต์: worathep    เวลา: 13/3/2013 09:44

อาการเกียร์ถอยหลังแล้วเครื่องสั่นแรง..
ซ่อมจุกจิกเย ...
weerachs โพสต์เมื่อ 13/3/2013 08:57


ใจเย็น ๆ ครับ ผมเข้าใจคนที่ซื้อรถมือสอง เพราะผมก็ซื้อมือสองมา แต่ยังไม่มีอาการครับ
ผู้โพสต์: l2ayhachi    เวลา: 13/3/2013 10:35

ถ้าสั่นเฉยๆ  ยังไงก็ฟลายวีลครับ   

รุ่นนี้อาการเริ่มต้นของเกียร์พังจะหนักกว่านี้เยอะครับ  เข้าเกียร์แล้วมันจะวืดอยู่หลายๆที ถึงค่อยไป  ไฟเกียร์กระพริบ  พวกนี้ครับ
ผู้โพสต์: Beer_ZX    เวลา: 13/3/2013 11:17

เป็นกำลังใจให้ครับ อย่าใจร้อนเกินไปนะครับ
ผู้โพสต์: mionv    เวลา: 13/3/2013 11:33

ใช่ครับ.. ถ้าบอกรายละเอียดมากกว่านี้ เพื่อน ๆ จะช่วยชี้จุดปัญหาได้ครับ

คราว ๆ น่าจะมาจากตัวฟลายวีลนะครับ...  เรื่องเกี่ยวข้องกับเกียร์ อย่าซ่อมกับศูนย์ (แค่เช็คว่าอะไรเสีย แล้วมาซ่อมข้างนอก)
ถ้าเปลี่ยนฟลายวีลข้างนอก ก็ 5-8 พัน (แล้วแต่เปลี่ยนอุปกรณ์อื่น ๆ ไปพร้อมกันเลยมั้ย) ถ้าเกียร์พัง ข้างนอกเปลี่ยนเกียร์ยกลูกก็แค่ 3 หมื่น.. ใช้ไปได้อีกนาน
ผู้โพสต์: l2ayhachi    เวลา: 13/3/2013 13:23

ฟลายวีลผมเปลี่ยนมา 2ปีที่แล้ว ของใหม่  4800  รวมค่าแรงครับ  
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 13/3/2013 14:16

ผมลองโทรไปถาม อู่เฮียก่ำ AutoWay Service เขาก็บอกเป็นที่ ฟลายวีลล์..ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 5พันกว่าบาท..นัดไว้วันศุกร์ 8.30น.ของวันศุกร์ที่ 15มีนาคม2556นี้คับ..จะลองให้เขาเปลี่ยนดู..แล้วจะมาบอกให้ทุกๆท่านทราบน๊ะคับว่าผลเป็นอย่างไร..ว่าแต่ใครเคยไปใช้บริการกับอู่เฮียก่ำ AutoWay Servicee อยู่ีซอยอิสระภาพ39 วัดดงมูลเหล็ก บ้างคับ..ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้กำลังใจน๊ะคับ..ผมชอบรถรุ่นนี้ City 2003เก็บเงินมา2ปี..อยากใช้ไปอีกนานๆคับ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 13/3/2013 14:26

ตอบคุณ mionv
อาการก่อนเข้าอู่..เกียร์ Auto
ก่อนเข้าอู่ซ่อม เข้าเกียร์ R พอค่อยๆปล่อยเบรคมีการการสั่นครืดๆๆแรงพอสมควรคับ..เข้าเกียร์ D สั่นเล็กน้อยคับ
ช่างที่อู่บอกให้เปลี่ยนยางแท่นเครื่อง..ผมก็เปลี่ยนใหม่หมดเลย..เป็นของ0คับ ดังนี้..
1.ยางลองแท่นเครื่องฝั่งเกียร์ 980บาท
2.ยางลองแท่นหลังเครื่อง 780บาท
3.ยางลองแท่นเครื่องฝั่งไทมิ่ง 1380บาท
หลังจากเปลียนแล้วมีอาการใหม่เกิดขึ้นมาคับดังนี้
ใส่เกียร์ถอยหลังยังไม่ปล่อยเบรคเครื่องสั่นมากแล้วมีเสียงดังตึกหลังจากการสั่นคับ..ช่างก็หาสาเหตุไม่ได้..
ผู้โพสต์: Aria_Type-R    เวลา: 13/3/2013 14:30

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13/3/2013 14:47 โดย Aria_Type-R

ขอส่งแรงใจให้หายเร็วๆครับ
อย่างที่เราถามตอบกันในหลายกระทู้...ยังไงก้อไม่น่าหนีจากเรื่องฟลายวีล
ถ้าเปลี่ยนของใหม่แล้วหาย เอาฟลายวีลเดิม(มือ 2 ที่เพิ่งเปลี่ยนเมื่อ ธ.ค.) ไปปาใส่หน้าอู่นั่นเลยครับ

ปล. ซึ้งใจกับที่พี่ว่าเก็บเงินมา 2 ปีเพื่อซื้อรถคันนี้  ขอแสดงความนับถือครับ
ผู้โพสต์: aa555    เวลา: 13/3/2013 15:08

หาอาการเจอไวๆคระบจะได้จบ ผม idsi 03 mt สบายหน่อย
ผู้โพสต์: เหี้ย    เวลา: 13/3/2013 20:58

ท่าหายโพสต์บอกทีนะคับอยากรู้เป็นที่อะไร
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 14/3/2013 09:16

ได้เลยคับ..ผมจะถ่ายรูปวิธีการที่ทางช่างแก้ไขมาให้ดูด้วยคับ..เพื่อเอามาแชร์กัน..^0^
ผู้โพสต์: aajung    เวลา: 15/3/2013 17:16

ยกเครื่อง พร้อมเกีย จบแน่นอน............ ทางออกสุดท้ายครับ
ผู้โพสต์: tri_mt    เวลา: 15/3/2013 21:34

ของผมรอเปลี่ยนฟลายวิลล์ อาการเดียวกันนี่แหละ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:12

เอารถไปเข้าอู่เฮียก่ำ Auto Way Service แก้ไขอาการเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วเกิดเสียงดัง..แกรกๆๆๆ..แล้วสั่นแรง..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:14

ไปถึงอู่ของเฮียก่ำประมาณ7.50น.รอคิวยาวเลย..เพราะรถเยอะมากคับ..เริ่มเอาเข้าอูประมาณ9.20น...
เจอเฮียก่ำแล้วเล่าอาการให้ฟังแกบอกเป็นที่ฟลายวีลล์..แล้วก็ให้ช่างในอู่จัดการเปิดกระโปรงหน้าเลยคับ..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:16

จัดการยกรถขึ้นแท่นยก..เจอน้ำมันรั่วที่ซีลน้ำมันเครื่อง..ก็บอกให้เฮียก่ำช่วยเปลี่ยนซีลเลย..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:19

เริ่มทำการถอดน๊อตของถังน้ำมันเกียร์เพื่อถ่ายน้ำมันเกียร์ออกก่อนคับ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:22

เริ่มถ่ายน้ำมันเกียร์ออก..(น้ำมันเกียร์ผมใช้ของเดิมใส่กลับคืนเข้าไปใหม่คับหลังจากถ่ายออกมา..เพราะเปลี่ยนไปเมื่อวันที่ 26/02/2556)..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:26

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 11:48 โดย weerachs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 09:43 โดย weerachs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 09:43 โดย weerachs

มาดูความแตกต่าง..ฟลายวีลล์มือ2ที่ผมไปเปลี่ยนมากับฟลายวีลล์มือ1ที่ผมมาเปลี่ยนกับ..อู่เฮียก่ำกันคับผม..^0^
ด้านซ้ายเป็นของมือ2..ส่วนด้านขวาเป็นของใหม่แกะกล่องกันเลยที่เดียว..
เฮียก่ำถามผมว่า..เปลี่ยนฟลายวีลล์มือ2มาเท่าไหร่..ผมบอก 3000บาท..
เฮียก่ำบอกว่า..เหี้ยจิงๆ..แมร่งโครตเหี้ยเลย..เอามาขายได้ยังไง 3000บาท..(เป็นภาษาบ้านๆที่ฟังแล้วเข้าใจง่าย..)
ของ 0 3พันปลายๆ+ภาษีนิดหน่อย 4125บาท
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:31

ฟลายวีลล์มือ2 สปริงส์จะขยับขึ้น-ลงได้ด้วยการใช้นิ้วดันขึ้นและลง..เฮียก่ำบอกว่ามันเกิดอาการล้าของสปริงส์เนื่องจากการใช้งานมานานพอสมควร..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:40

ฟลายวีลล์มือ1..ของใหม่แกะกล่อง..
ฟลายวีลล์มือ1 สปริงส์จะไม่ขยับขึ้น-ลงได้ด้วยการใช้นิ้วดันขึ้นและลง..แน่นหนึบคับ..ทั้ง4มุม..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:48

ของใหม่จาก 0 คับ เฮียก่ำแกมีเก็บไว้ในร้านอยู่แล้วคับ..เพราะรถ City 2003 มาเปลี่ยนกันบ่อยคับ..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:51

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 10:07 โดย weerachs

ขอลัดขั้นตอนการยกเกียร์ลงน๊ะคับ..เพราะแต่ละภาพโหลดนานมาก..
ข้ามมาถึงขั้นตอนการใส่ฟลายวีลล์เข้าที่ชุดเกียร์ที่ยกลงมาเลยล่ะกันน๊ะคับ..
หลังจากใส่เข้าไปแล้วหน้าตาก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็นคับ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 09:58

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 11:53 โดย weerachs

เริ่มขั้นตอนการยกชุดเกียร์เข้าไปในตัวถังของรถคับ..ก้มๆเงยๆ..ติดคับมันติด..
เนื่องจากห้องเครื่องของ City 2003 เล็กมาก..ต้องพอดีจิงๆถึงจะเข้าไปได้คับ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:00

เอาไฟฉายช่วยส่อง..หาสาเหตุว่ามันติดตรงไหน..เวลาผ่านไป15นาที..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:05

พระเอกขี่ม้อขาว..เข้ามาช่วยทันที..เฮียก่ำ(เสื้อสีเทา)..เจ้าของอู่ Auto Way Service ของเรานั่นเองคับ..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:08

ลงมือจัดการเองเลย..เพราะรุ่นนี้เข้ายากจิงๆ..เพราะห้องเครื่องมีพื้นที่น้อยมาก..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:11

เข้าไปแล้วเีรียบร้อยคับ..มือชั้นเฮียแล้ว..บอกแล้วอย่าต้องให้ถึงมือเฮีย..ลูกน้องเขาบอกแบบนั้น..อิอิ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:17

ลืมบอกไปคับ..ผมบอกเฮียก่ำว่ารถผมมีอาอารกระตุก(กระเด้า..)..ตอนรอบต่ำคือเหยียบคันเร่งความเร็วอยู่ที่ประมาณ 20-30 มันกระตุก(กระเด้า)
แกเลยสั่งลูกน้องถอด..คอยล์จุดระเบิด..ลูกน้องบอกรับทราบคับ..ถอดเลย..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:21

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/3/2013 12:30 โดย weerachs

ถอดชุด คอยล์จุดระเบิด4ตัวหลังออกมาดู..สังเกตุเห็นว่ามี..เขม่าขาวๆ
ตัวที่1-1 มองระยะใกล้..ตรงคอจะมีรอยเขม่าสีขาวคับ..(มือของผมเองคับ)
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:26

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/3/2013 12:31 โดย weerachs

รูปที่1-2 ตัวเดียวกันกับภาพแรก..แต่มองระยะไกลคับ..จะเห็นได้ชัดว่ามีเขม่า..เป็นสีขาวเกาะอยู่บริเวณลำคอของคอย์ล..
เฮียกำบอกว่าเป็นการจุดระเบิดของคอย์ล..ที่ผิดพลาด..ประจุไฟต้องวิ่งลงไปด้านล่างคับ..แต่อันนี้วิ่งออกด้านข้าง
ทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:28

เสียหาย2ตัวคับ..นี่คือตัวที่2คับ
รูปที่2-1 ระยะไกล..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:31

ตัวที2-2 ระยะใกล้คับ..^0^
ที่นิ้วโป้งผมชี้..เป็นรอยเขม่าสีขาว..
ผมเลย(กัดฟัน)ให้ช่างเปลี่ยนทั้ง4ตัวหลังเลยคับ..ราคา7พันกว่าบาท
ผู้โพสต์: nuttachai.t    เวลา: 18/3/2013 10:38

หายไวๆครับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:50

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 15:31 โดย weerachs

หลังจากนั้นเฮียก่ำบอกให้ลูกน้อง..ตั้งวาวล์ให้รถลูกค้าด้วย..(ผมบอกค่าตั้งวาวล์เท่าไหร่คับ..เฮียก่ำไม่คิดเงินคับฟรี)สงสัยเห็นว่าค่าใช้จ่ายผมเยอะแล้ว..
ค่าฟลายวีลล์5พันกว่า..ค่าคอย์ล4ตัวหลังอีก7พันกว่า..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:51

อีกรูปคับการตั้งวาวล์
ผู้โพสต์: thanisorn    เวลา: 18/3/2013 10:51

ข้อเก็บข้อมูล...ขอบคุณครับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:53

เริ่มทำการประกอบให้เข้าที่เหมือนเดิม..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:54

ใช้บล๊อกลมไขแทนไขควงเพื่อความรวดเร็วคับ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 10:58

จากนั้นเฮียก่ำเข้ามาเช็คดู..เรื่องของการต่อสายจัดเก็บ..เรียงสายใหม่ว่าเข้าที่ถูกต้องหรือไม่..
ก่อนที่จะเอาไปลองขับจริง..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 11:00

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 11:44 โดย weerachs

จากนั้นเฮียก่ำเรียกผมขึ้นรถ..ไปลองรถกัน..ขับเองเลย..นี่คือเฮียก่ำเห็นกันแบบชัดๆ..^0^
อาการสั่นตอนเข้าเกียร์ถอยหลังหายสนิท..
อากรกระตุก(กระเด้า)ตอนเดินหน้ารอบต่ำความเร็ว 20-30 นิ่งลื่นสนิท..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 11:01

ขณะลองรถงานเข้าโทรศัพท์ลูกค้า..งานเยอะมาก..ขับลองรถกันไป..คุยกับลูกค้ากันไป..^0^
ผู้โพสต์: l2ayhachi    เวลา: 18/3/2013 11:02

ยินดีด้วยครับ   เดี๋ยวก็หายแล้วครับ   เพราะอาการพวกนี้  โดนๆกันไปถ้วนหน้าแล้ว   
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 11:04

หลังจากนั้นกลับเข้ามาจอดที่อู่อีกครั้ง..เปิดฝากระโปรงหน้า..แล้วบอกให้ลูกน้อง..ถอดล้างลิ้นปีกผีเสื้อ(ฟรีอีกแล้วคับ..)
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 11:24

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/3/2013 10:10 โดย weerachs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 15:05 โดย weerachs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18/3/2013 12:01 โดย weerachs

รวมค่าใช้จ่าย
1.ฟลายวิลล์มือ1เบิก 0 = 4125บาท
2.คอยล์หัวเทียนด้านหลัง4หัว 1750x4 = 7000บาท....
3.เปลี่ยนซีลน้ำมันเครื่องที่ีรั่ว..300บาท..
4.ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ(ฟรี)
5.ตั้งวาวล์(ฟรี)
ค่าแรงทั้งหมด 1000บาท..(ถูกแบบเหลือเชื่อ)
ถ้าที่ 0 ค่ายกเกียร์2500บาท..อู่ที่ผมไปเปลี่ยนฟลายวีลล์มือ2ค่ายกเกียร์1800บาท..
ใช้เวลาในการทำทั้งหมด 4ชั่วโมง ถ้าทิ้งไว้ที่0 2วัน อู่ที่ผมเคยให้เปลี่ยนฟลายวีลล์มือ2 5วัน
เฮียก่ำซ่อมให้ผมตั้งหลายอย่างค่าแรง 1000บาทเองคับ..
สุดท้ายนี้..ขอขอบคุณเฮียก่ำ..ลูกน้องเฮียก่ำ..อาแปะ(คุณพ่อเฮียก่ำที่เคลียคิวในการซ่อมให้)
รวมถึงทุกๆท่านที่เป็นกำลังใจและแน๊ะนำเรื่องของอาการรถเสีย..ของผมจนหายเป็นปกติคับ..(อู่เฮียก่ำจะรับซ่อมแต่..ฮอนด้าเท่านั้นน๊ะคับ..)
ต่อไปก็รอลุ้นอาการของเกียร์ว่าจะใช้ได้อีกนานแค่ไหน..เพราะเฮียก่ำบอกว่า..ใกล้แล้ว..ไมล์รถผม245,000แล้ว..ค่าใช้จ่ายประมาณ 28,000บาท..เตรียมเก็บตังค์อีกรอบ..
จะสู้ต่อไปคับผม..สู้..สู้..^0^
ผู้โพสต์: Aria_Type-R    เวลา: 18/3/2013 13:50

นับถือความใจสู้ของพี่จริงๆครับ ซ่อมคราวนี้ ใช้ได้อีกไม่ต่ำกว่าแสนกิโลแน่นอน
แล้วแบบนี้ จะยังคิดจะขายเต้นท์อีกไหมจ๊ะ ^^

ปล. ฟลายวีลเดิม ต้องมีเคลียร์กับอู่เก่านะเนี่ย...เอาของเน่าๆมาเปลี่ยนให้เราได้ไง
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 18/3/2013 15:09

ไม่ใช่เฉพาะแต่ฟลายวีลล์คับ..แล็คมือ2ที่เอามาเปลี่ยนใหม่ให้ผมด้วย..ยังดังกึกๆที่ด้านหน้าฝั่งคนขับอยู่เลยคับ..เสียเงินไปตั้ง 14,500บาทคับไม่หาย..ถามเฮียก่ำตอนซ่อมฟลายวีลล์เขาเช็คให้แล้วเป็นที่แล็คจิงๆคับ..ถามอู่ที่ซ่อมแล็คให้ผมเขาบอกไม่มีของเปลี่ยนต้องรอ..พูดแบบนี้ก็รู้แล้วคับว่าจบ..ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าไหร่..เดี๋ยวกะว่าจะเข้าไปที่อู่พรเทพโช๊คอัพดูคับอู่นี้เก่งช่วงล่างคับ..น่าจะแก้ปัญหาได้บ้าง(หวังลึกๆ)
ปล.ตอนออกรถมาใหม่ๆ..กะว่าจะถ่ายแต่ของเหลวทั้งหมด..แล้วเริ่มแต่งรถด้วยการติดสเกริต์ส หน้า-หลัง สปอย์เลอร์ เปลี่ยนแม็ก โหลดลงเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม..กลับเอามาซ่อมรถหมดไป 30,000เศษ..เกียร์หายดังแล้ว..เฮียก่ำทักเรื่องเกียร์อีก..ความสวยงามเอาไว้ทีหลัง..เก็บเงินเตรียมซ่อมเกียร์ก่อนดีกว่าคับ..^0^
ผู้โพสต์: projack    เวลา: 18/3/2013 19:14

พี่ Weerachs ที่พี่บอกตอนเหยีบความเร็วตอน 20-30 นี้เหยีบคงที่ไช่ไหมคับ หรือถอนคันเร่งแล้วกระตุก
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 19/3/2013 08:01

โทษทีคับตอบช้า..เมื่อวานผมว่ารถยังมีอาการสะดุดอยู่คับ..แต่ผมโทรไปหาเฮียก่ำเขาแล้ว..เขาให้เข้ามาที่อู่อีกครั้งวันเสาร์คับ..3-4วันหลังจากเข้าไปที่อู่เฮียก่ำ..รถมีอาการกระตุกความเร็วรอบอยู่ที่ 30-40 คับ..ขับเลี้ยงไว้ประมาณนี้คับ..จะรู้สึกได้เลยว่าสะดุดหรือกระตุก..ไม่ได้ถอนคันเร่งแล้วกระตุกคับ คุณprojack เป็นเหมือนผมเหร๋อคับ..หรือว่ารถผมอาการหนัก..ขอคำแน๊ะนำด้วย..^0^
ผู้โพสต์: noth1    เวลา: 19/3/2013 09:21

ถ้ายังกระตุกอยู่ลองเช็คหัวเทียนกับคอย์หัวเทียนอีกทีครับ
ผู้โพสต์: projack    เวลา: 19/3/2013 10:52

อ่อ รถผมชับช้าๆไม่เกิน 30-40 พอถอนคันเร่งแล้วมันเหมือนดึงอะครับมันไม่ไหล ดึงนิดๆไม่มาก รู้สึกได้
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 19/3/2013 12:46

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19/3/2013 13:19 โดย weerachs

ของผมก็เป็นคับ..ทุกความเร็วพอยกเท้าออกจากคันเร่ง..เหมือนจะมีหน่วงให้รถตื้อลงเล็กน้อยคับ..ไม่แน่ใจเพื่อความปลอดภัยของ Hondaหรือป่าวที่ออกแบบมาเป็นแบบนี้..หรือเป็นที่ระบบเกียร์มันฟ้องว่าใกล้ถึงเวลาของมันแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันคับ..ต้องรบกวนผู้รู้มาช่วยกันแน๊ะนำคับ..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 19/3/2013 12:49

ตอบคุณ noth1 เพิ่งเปลี่ยนมาทั้ง2อย่างเลยคับ..ไม่เกิน2อาทิตย์คับ..เดี่ยวจะลองให้ช่องก่ำ..เช็ควาลล์เปิดปิดน้ำมันเกียร์ก่อนว่าใช่มั๊ย..แต่ไม่ใช่เลี้ยงความเร็วที่ 30-40จะเป็นทุกครั้งน๊ะคับ..เป็นบางครั้งคับ..^0^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 19/3/2013 13:47

ตอบกลับ 53# projack

เป็นปกติของเกียร์ CVT ครับ ปล่อยคันเร่งเกียร์จะหน่วงไว้หน่อย ไม่เหมือนเกียร์ AUTO ธรรมดาครับ เป็นความอัจฉริยะของเกียร์ที่ ไม่ต้องคอยเบรคบ่อยๆครับ เป็นการผสมผสานระหว่างข้อดีของเกียร์ธรรมดา กับ เกียร์ Auto คับ เช่นลงทางลาดชัน ท่านก็ไม่ต้องกดเบรคครับถ้าไม่ชันมาก  การเร่งแซงยามปกติ ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ มาเร็ว ต้องเบรค แล้วก็เร่ง สลับไปมา หากเป็น CVT แค่ยกคันเร่งจะมีอาการหน่วงแบบเกียร์ธรรมดาแล้วเร่งแซงต่อได้เลยครับ เป็นที่มาของคำว่า เกียร์อัจฉริยะ CVT ครับผม
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 19/3/2013 14:23

ผมก็เข้าใจเหมือนคุณ Ball_Korat คับ..แต่ไม่สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ละเอียดเหมือนคุณ Ball_Korat คับ..ขอบคุณ คุณBall_Koratทีมาแน๊ะนำความรู้ความเข้าใจให้ได้อย่างละเอียดทุกครั้ง..ขอถามเพิ่มเติมคับ..ผมเปลี่ยนคอยล์รอบเดินเบามาแล้วชุดหลังทั้ง4ตัว..แต่พอมาขับเลี้ยงความเร็วไว้ที่ 30-40 มีอาการสะดุดเป็นบางครั้งแต่ไม่ทุกครั้ง..ผมต้องเช็คที่ วาวล์เปิดปิดน้ำมันเกียร์ด้วยหรือป่าวคับ..หัวเทียนผมก็เปลี่ยนแล้วทั้ง8หัวเมื่ออาทิตย์ก่อน..ขอบคุณคับผม..^0^
ผู้โพสต์: sirapob    เวลา: 19/3/2013 14:36

ต้องลองเช็คคอลย์ที่เหลืออีกสี่หัว มันอาจจะเสื่อม เพราะรถอายุเยอะแล้ว
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 19/3/2013 14:51

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19/3/2013 15:44 โดย weerachs

ตามที่ผมเข้าใจ..คอยล์ City 2003 มีทั้งหมด2ชุด ชุดหน้า4ตัวเป็นแบบรอบสูงใช้ความเร็วแล้วไม่สะดุดคับ..ชุดหลัง4ตัวเป็นรอบเดินเบาคับ..ความเร็วที่สะดุด30-40km/hr นี่เป็นรอบเดินเบาคับไม่ได้ใช้ความเร็วสูง..รอคุณ Ball_Koratมาอธิบายอีกครั้งดีกว่าจะได้รู้ปัญหาพร้อมๆกันคับ..^0^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 19/3/2013 16:46

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19/3/2013 17:08 โดย Ball_Korat

ขออธิบายทีละส่วนนะครับ  ส่วนแรกเรื่องของ รีเนียร์เกียร์ หรือ โซลินอยล์วาล์ว หรือกล่องสมองเกียร์ แล้วแต่คนจะเรียกนะครับ ทั้งศัพท์ช่าง ศัพท์ร้านอะไหล่ ศัพท์ ชาวบ้านอย่างเราๆ มันคืออันเดียวกันครับ ที่ตั้งอยู่ใต้กรองอากาศครับบริเวณด้านบนของเกียร์
หน้าที่ของตัวนี้คือ เปิดปิดการจ่ายน้ำมันเกียร์ตามรอบเครื่องยนต์ครับผม  การทำงานจะมีสองส่วนคือใช้ไฟฟ้า เป็นตัวเปิด รูน้ำมัน หรือ ท่อน้ำมัน และสปริง เป็นตัวดันกลับครับผม  
ต่อมาเรามาดูที่เกียร์ครับ อายุการใช้งานตัวล้อช่วยแรงหรือ ฟลายวีล จะอยู่ที่ประมาณ 100,000 โล ครับ ส่วนอุปกรณ์ภายใน พวกสายพาน ผ้าคลัช กรองเกียร์ที่อยู่ภายใน หากได้รับการดูแลที่ถูกต้อง จะประมาณ 300,000 โลครับ
โดยปกติเมื่อเกียร์มีอาการผิดปกติเราควรจะเช็คตัว ลีเนียร์เกียก่อนครับ โดยการถอดออกมาต่อไฟ 12V ดูว่ามีการเปิดปิดที่ดีอยู่หรือไม่  สปริงล้ามั้ยมีการดันกลับปิดได้สนิทหรือไม่ครับ  โดยการเช็ค ล้าง หรือที่เคยได้ยินกันว่า ล้างกล่องสมองเกียร์นั่นแหล่ะครับ  ส่วนเมื่อเกียร์ถึงระยะ 250,000-300,000 โลแล้ว หากมีการรื้อซ่อมเกียร์ทั้งลูก เปลี่ยนสายพาน เช็คผ้าคลัช ล้างกรองเกียร์หรือเปลี่ยนภายในลูกเกียร์หมดแล้ว  ร้านจะทำการล้างลีเนียร์เกียร์ หรือเปลี่ยนครับ (อันนี้ผมเห็นมีสองราคานะล้างกับเปลี่ยน แนะนนำว่าเปลี่ยนเลยจะดีกว่าครับทำงานมานาน สปริงคงล้าเหมือนฟลายวีลล่ะคับ)
สำหรับท่านที่เปลี่ยนฟลายวีลแนะนำให้ล้างเช็คสปริงว่ายังดันกลับดีหรือไม่ วาล์วปิดสนิทมั้ยนะครับ

ราคา ฟลายวีล พร้อมซีล น้ำมันเกียร์ อยู่ที่  6,000-8,000 ครับ
ซ่อมเกียร์ทั้งลูก อยู่ที่ประมาณ 25,000-35,000 ครับ
ราคา ลีเนียร์ เบิกศูนย์ประมาณ 10,000 ขึ้นไปครับ เซียงกง ร้านนอก และมีมือสองประมาณ 3,000 บาทครับ
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 19/3/2013 16:52

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19/3/2013 17:10 โดย Ball_Korat

ตอบกลับ 59# weerachs

จากการติดตามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ท่านน่าจะเช็คคอยล์หมดทุกตัวแล้ว ดังนั้นเป็นไปได้ว่ายังไม่ได้ล้างและเช็ค ตัวลีเนียร์ที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นครับ ลองตรวจสอบเช็คดูได้ครับ จากอาการที่เล่ามา มีความเป็นไปได้ที่ ลิเนียร์เปิดไม่สุดหรือ ปิดไม่สนิทเปิดแล้วค้างในบางครั้ง เป็นไปได้ครับผม ลองล้างดูก่อนหากไม่หายก็เปลี่ยนได้เลยครับ แต่อย่าไปถามศูนย์ครับ ราคาแรงมากเอาการครับผม  โดยปกติอาการเสียของ วาล์วน้ำมันเกียร์ตัวนี้  จะมีอาการสะดุดุ ที่รอบต่ำ  ออกตัวแรงๆ รอบจะตีขึ้นสูง  วิ่งที่ความเร็ว 80-90 มีอาการรอบสวิง จากแรงดันน้ำมันเกียร์ที่ไม่คงที่ซึ่งเกิดจากการที่วาล์วทำงานผิดปกติ เปิดปิดไม่สุด ค้าง ดังที่กล่าวข้างต้นครับ ทำให้เกียร์ทำงานหนัก ต่อมาก็ฟลายวีลล้า เกียร์หอน และเกียร์พังในที่สุดครับผม  (อีกส่วนคือคอยล์จีนครับ ไปเร็วมาก บางท่านแจ๊คพอต 3 เดือนพัง เน้นใช้ของแท้ร้านนอกเอาครับ) ระบบมันเป็นเช่นนี้ครับหากมีอาการผิดปกติ เช็คตัวนี้ก่อน และฟลายวีล ส่วนซ่อมเกียร์ไว้หลังสุดครับผม

ดังที่ท่านเห็นครับ สปริงฟลายวีลที่ล้า จะกดด้วยมือเปล่าได้ สปริงลิเนียร์ก็ทำงานหลักการเดียวกันครับผม เป็นตัวกดประตูน้ำมันเกียร์ให้ปิดครับ อาจแค่สกปรกเปิดปิดไม่สนิทล้างก็หายครับ และเช็คสปริงไปด้วยเลยครับผม
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 19/3/2013 17:04

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19/3/2013 17:21 โดย Ball_Korat

เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นเลยลองไปขุดกระทู้มาให้ดูครับ จะได้เห็นหน้าตา ตัวรีเนียร์ด้วยครับ

http://www.hondajazz-club.com/sm ... g2633495#msg2633495

แถมวิธีแก้ไขซ่อมคอยล์เสียเบื้องต้นครับ

http://www.hondacityclub.com/boa ... page%3D4&page=1

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ..เพื่อประโยชน์ของชาวซิตี้คลับล้วนๆ ครับ..ผมก็ได้ความช่วยเหลือจาก พี่น้องในคลับนี่ล่ะครับ..ไม่ได้รู้อะไรมากมายมาจากไหนหรอกครับผม
ขอติดเครดิตให้..CIty Club ด้วยครับผม..หายไวๆนะครับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 20/3/2013 09:14

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/3/2013 09:32 โดย weerachs

ถึงคุณ Ball_Korat เมื่อเช้านี้มีอาการใหม่เกิดขึ้นมาอีกแล้วคับ งง มาก ..ขับรถออกจากบ้านถึงลานจอดรถที่บริษัทมีอาการแปลกเกิดขึ้น2อย่างคับดังนี้
1. เข้าจอดรถเพื่อเตรียมดับเครื่องดันเกียร์ไปที่ R ปกติเครื่องไม่สั่น พอดันเกียร์เข้า P มีการกระตุกดังกึกคับ..งง ลองทำอยู่2-3ครั้ง เข้า R แล้ว เข้า P ทุกครั้งที่เข้า P มีอาการกระตุกคับเหมือนกระชากเล็กน้อยคับ..เพิ่งเป็นเมื่อเช้าตอนจอดรถคับ...
2. ช่วงที่เข้า P ลอง เข้า D ด้วยเพื่อลองเดินหน้าและถอยหลัง พอปล่อยเบรคหลังจากเข้า D ไม่เหยีบยคันเร่งปล่อยรถไหล..มีอาการกระตุกแรงๆ 3-4 ครั้ง..งงเลยคับ..แต่เป็นครั้งเดียวในระหว่างการลองถอยเข้าถอยออกคับ..เพื่อทดลองเกียร์ P อยู่คับ..
สงสัยต้องตรวจเช็ค ลิเนียร์จิงๆแล้วคับ..ทำไมถึงจุกจิกแบบนี้รุ่นนี้..
ปล.ผมเพิ่งมาอ่านจากลิงค์ที่คุณBall_Korat บอกไว้..เรื่องของคอยล์จุดระเบิด..แก้ไขเองได้เบื้องต้นไม่ต้องรีบเปลี่ยน..อ่านแล้วเสียดายเงินมากเลย..หมดไป 7พันกว่าบาท ..สำหรับท่านที่คิดว่าคอยล์จุดระเบิดมีปัญหา..ลองอ่านก่อนคับจะได้ไม่มีเงินเยอะอย่างผม..^0^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 20/3/2013 09:41

มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากรีเนียร์เกียร์ครับ เพราะอาการคล้ายๆกับการที่โซลินอยล์วาล์ว เปิดปิดไม่สนิทครับ อาการจะคล้ายรถเกียร์ธรรมดาเหยียบคลัชไม่สุด หรือ ใส่เกียร์ไม่สนิทครับ เพราะแรงดันน้ำมันเกียร์มันไม่ได้ครับ เมื่อรวนแล้ว อาจจะใส่เกียร์แล้วไม่ไป วืด หรือสะดุด จากการที่แรงดันน้ำมันเกียร์ไม่สัมพันธ์กันครับ ทำให้รวน รอบสวิง อะไรแบบนี้ครับผม จิงๆมันก็ไม่ได้จุกจิกหรอกครับ อยู่ที่ความรับผิดชอบของแต่ละร้าน เห็นใจว่างานเค้าเยอะก็ไม่อยากเช็คให้เสียเวลาหลายจุดนะครับ ถ้าเราไม่จี้เอง ดูการดูแลหลังการซ่อมดีกว่าครับ บางท่านซ่อมเกียร์หมดไป สองสามหมื่น ไม่ล้างรีเนียร์ให้ หรือไม่เปลี่ยนของใหม่ให้ แล้วแจ้งว่าซ่อมราคาถูกกว่า มันเป็นการตลาดครับ บางแห่งจะถามว่าจะเปลี่ยนใหม่ด้วยรึล้าง อันนี้ก็มีจรรยาบรรณหน่อยครับ ราคาก็ว่ากันไปสองราคา ส่วนการดูแล บางร้านซ่อมมามีปัญหากลับไปเช็คให้ล้างให้ แต่เรื่องเปลี่ยน คงต้องมีค่าอะไหล่  บางร้านบอกไม่เกี่ยวกันเพราะเป็นอุปกรณ์ที่อยู่นอกเหนือตัวเกียร์ (ก็มันอยู่บนเกียร์ แต่มีความสำคัญในการควบคุมเกียร์) อันนี้เถียงกันทั้งวันก็ไม่จบครับ เจออู่ดีก็ดีไป จบง่ายๆครับผม สองแสนกว่าเพิ่งจะมีอาการฟลายวีลนี่ ถือว่าใช้รถถนอมมากครับ..คุ้มจริงๆ
ปล.เช็ค พวกเซ็นเซอร์ด้วยนะครับ ถ้ารวน มีไฟโชว์หน้าปัด อาจจะคำนวนอัตราส่วนผสมผิด ทำให้สะดุดได้ครับ..ไม่ทราบว่าเคยมีไฟโชว์บนหน้าปัดมั้ยครับ
ส่วนรีเนียร์นี่น่าจะล้างแล้วหายครับ ถ้าเสียส่วนมากจะมี ตัว D กระพริบ ที่ไฟบอกตำแหน่งเกียร์บนหน้าปัดครับผม..ขออย่าเป็นไรมากหายไวๆ นะครับ
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 20/3/2013 10:00

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/3/2013 10:23 โดย Ball_Korat

ส่วนเรื่องการทำงานของหัวเทียนที่สอบถามเข้ามาครับเป็นแบบนี้นะครับ
เครื่อง i-dsi จะมีจังหวะการจุดระเบิดคือ ถ้าขับรอบปกติ มันจะจุดทีละหัว หัวแรกแล้วก็หัวที่ 2 แต่ถ้าขับรอบสูงๆ มันจะจุดพร้อมกันเลยทีเดียว 2 หัวครับ  ....
อาจจะสงสัยว่า ทำไมมันต้องจุดระเบิดถึง 2 ครั้ง สาเหตุถ้าผมจำไม่ผิด รู้สึกจะเป็นเพราะเครื่อง i-dsi เค้าจะเน้นที่ความประหยัดและความสะอาดของไอเสีย ดังนั้นการจุดระเบิดครั้งที่ 2 จะช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์มากยิ่งครับ เผาไหม้หมดจดเลย  ดังนั้น น่าจะเช็คคอยล์ส่วนที่เหลือด้วยนะครับ ถ้าอาการสะดุดเป็นได้ทั้งสามจุดที่กล่าวมาครับ คอยล์ รีเนียร์ และเซ็นเซอร์ครับผม ซึ่งทั้งสามตัวเช็คไม่ได้ยุ่งยากยากอะไรเลยครับ ใช้ไฟจี้ดูว่าเปิดปิดปกติมั้ยเท่านั้น เซ็นเซอร์โค๊ดก็เสียบเช็คได้เลย ส่วนคอยล์ก็เช็ครั่วได้เลยครับ

ปล.หัวเทียนใช้ธรรมดานะครับ สำหรับ IDSI เต็มที่ก็ Platinum ไม่ต้องใส่หัวเข็ม(Iridiam) นะครับ บ่ามันไม่เท่ากัน และไม่จำเป็นต้องใส่เบอร์เย็นกว่าเดิมนะครับ ไม่ว่าจะติดแก๊สหรือไม่ก็ตาม เพราะเราสตาร์ทน้ำมันมันจะเย็นไป ติดยากครับ ถ้าเบอร์ 7 ปกติ เพิ่มก็ไม่เกิน 8 ครับ 9 สตาร์ทไม่ติดแน่ๆครับ ของเดิมๆดีที่สุดครับ เปลี่ยนตามการใช้งานปกติครับ เสื่อมแล้วกระเบื้องมันจะแตกร้าวลงไปในห้องเผาไหม้ได้ครับผม..อันตรายครับ

ไม่ทราบว่าหัวเทียนที่เปลี่ยนเป็ยของเดิมตรงรุ่นมั้ยครับ..และได้เช็คคอยล์ทั้ง 8 ตัวรึยังครับผม
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 20/3/2013 11:11

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20/3/2013 11:29 โดย weerachs

ถึงคุณ Ball_Korat รายการเปลี่ยนและซ่อมมีดังนี้คับผม
1. หัวเทียนเปลี่ยนใหม่ทั้ง 8 หัว เป็นของ DENSO ราคาหัวละ 90 บาทคับผม ดูที่บิลของอู่แถวบ้านที่เขียนมาให้คับ..วัน     
    ที่เปลี่ยน 6มีนาคม2556 คับ
2. คอยล์จุดระเบิด..รอบเดินเบาเปลี่ยนใหม่4ตัวหลังคับ..ของใหม่เลยคับ..4x1750=7000บาท..ผมโพสและลงรูปไว้ที่
    หน้า4 คอมเม้นท์ที่ 52,53,54,55 คับ..ก่อนเปลี่ยนช่างเช็คให้แล้วเสีย2ตัวคับ..แต่ผมเปลี่ยนหมดเลย4ตัว..เปลี่ยนวัน
    ที่ 15มีนาคม2556 (มาอ่านเจอตอนหลังแก้ไขได้เอง ที่คุณBall_Korat ลงลิงค์ไว้เสียดายเงินมากเลย..^0^)
3. ส่วนคอยล์จุดระเบิดรอบสูงช่างถอดออกมาดูปกติดีคับ..เพราะผมลองขับรถความเร็วที่ 100Km/hr ไม่สะดุดคับผม
4. ที่หน้าปัดไม่โชว์ว่ามีอะไรที่บอกว่าผิดปกติคับ..ไฟ D ไม่กระพริบคับ..อุ่นใจขึ้นมานิด..
5. ผมซื้อรถต่อจากเพื่อนของผมเอง..เขาไปออกรถใหม่ป้ายแดงคันแรก..ผมก็ซื้อต่อจากเพื่อนมา..เขาบอกเขาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
    ทุก5000โล..และก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ CVTF ของศูนย์ทุก5000โลเหมือนกัน พร้อมกันกับตอนถ่ายน้ำมันเครื่องคับ..เขาบอกอย่า
    เสียดายค่าน้ำเกียร์ 600กว่าบาท..ดีกว่าเกียร์พังซ่อมหลักหมื่นคับ..^0^
    ปล.เสาร์นี้จะไปให้อู่ Auto Way Service ลองล้าง รีเนียร์ และจะลองเปลี่ยนกรองแก๊สซ่ะด้วยเลย..ที่ร้านแก๊ส หมาก
    กระจาย เพราะเพื่อนผมไปติดมาที่ร้านนี้คับ..^0^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 20/3/2013 11:58

คิดว่ามาถูกจุดแล้วครับ..กรองแก๊สปกติจะเปลี่ยนที่ 20,000-30,000 โลครับ แต่ไอตัวกระบอกใหญ่ๆที่เข้าหัวฉีดแก๊ส ผมก็ซื้อเปลี่ยนเองทุก 10,000 โลครับ เพราะงานผมไปทั่วประเทศ ไปเจอปั๊มแก๊สสกปรกบ้างรึเปล่าเราก็ไม่ทราบครับ ส่วนที่เปลี่ยนเองได้ก็เปลี่ยนเองเลยครับ ราคาร้อยสองร้อยเองครับ ส่วนตัวที่อยู่ที่หม้อต้ม ก็ 20,000 โล ให้ร้านเปลี่ยนให้ทีครับ สนนราคา สองตัว 500 บาทครับ พร้อมเช็ครั่ว เช็คท่อแก๊ส และท่อน้ำด้วยครับผม ค่าแรงฟรี
จากที่กล่าวมาหลักๆ น่าจะเป็นรีเนียร์ล่ะครับผม เพราะอาการและเสียงผิดปกติอยู่ที่เกียร์ครับ  ส่วนน้ำมันเกียร์ ผมก็ 10,000 โลทีครับ เพราะใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 100% เลยเปลี่ยนพร้อมๆกันครับ ตามสเปคศูนย์จะ 40,000 บีควิกแนะนำ 20,000  ส่วนตัวผมเต็มที่ก็ 15,000 เท่านั้นครับ เปลี่ยนบ่อยๆดีครับ กรองในเกียร์ไม่ตันเร็ว เกียร์ก็อยู่กับเราไปนานครับ
แก๊สใช้มากี่โลแล้วครับ ระบบน้ำมันและแก๊สยังดีอยู่ใช่มั้ยครับ..ลองทดสอบดูทั้งสองระบบนะครับว่าออกอาการมั้ย  เพราะนานๆไป บางครั้งหัวฉีดรั่วได้ครับผม  หัวฉีดแก๊สอายุประมาณ 100,000 โลครับ ส่วนหัวฉีดน้ำมันส่วนมากแค่ซีลรั่วจากแรงดันที่มาที่หัวฉีดตลอดเวลา สามารถซ่อมได้ครับ แนะนำเติมน้ำมันให้เกินครึ่งถังไว้นะครับ ยืดอายุปั๊มติกครับ มันแช่เอาไว้จะได้ระบายความร้อน ปั๊มเราไม่นอนถึงก้นถังครับ ตัดปั๊มติ๊กก็ได้แต่จะสะดุดเวลาเปลี่ยนระบบไปมาระหว่างแก๊สกับน้ำมันครับ อันนี้แล้วแต่แนวทางแต่ละท่านครับผม ไม่มีผิดถูกครับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 20/3/2013 12:55

เสาร์นี้จะไปจักการเข้าอู่ซ่อมเพิ่มเติม..ระหว่างนี้ถ้ามีอาการแปลกๆ..จะมาขอความรู้จากคุณ Ball_Korat อีกคับ..สำหรับทุกท่านที่มีปัญหา..หรือการการคล้ายๆกับของผม..ใจเย็นๆน๊ะคับ..ค่อยๆแก้ไข..เดี๋ยวหมดเยอะแบบผม..เพราะ ฟลายวีลล์มือ2แท้ๆ..ทำให้ผมหมดเงินไปเยอะเลย..ขอบคุณคับผม..^0^

ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 21/3/2013 10:21

รวมยอดค่าเสียหายที่ไม่ควรเสียเลย..เพราะใช้ฟลายวีลล์มือ2คับ..
1. ค่าแรงในการเปลี่ยนหรือค่ายกเกียร์ 1,800บาท
2. ค่าฟลายวีลล์มือ2 3,000บาท (อันนี้ไปเอาเงินคืนได้..โชคดีไป..เจ้าของอู่คืนเงินแบบเคืองๆ..)
3. ค่ายางรองแท่นเครื่องทั้ง3ตัว..ของใหม่เบิกศูนย์..เพราะคิดว่าเป็นที่ยางลองแท่นเครื่อง..3,140บาท..
    ค่าแรง 1,200บาท รวม 6140บาท (ที่ไม่ควรเสียเลย)
    {:4_427:}
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 21/3/2013 14:12

ยางรองแท่นเครื่องก็มีผลให้เกียร์เสียได้ครับ แรกเริ่มอาการจะมีการกระพือครับ ประมาณ พรืดๆๆๆ  แบบนี้ครับ คือยางรองแท่นเครื่องครับ ถึงระยะก็เปลี่ยนเถอะครับอย่าไปเสียดายครับ คิดถูกแล้วที่เปลี่ยนครับ ของผม แสนโล เช็คตัวซ้ายขวายังดี ตัวหลังไปแล้วเหมือนกันครับ โดยเฉพาะยางรองแท่นเกียร์เนี่ย จะทำให้อาการชัดเลยครับ เครื่องกระพือ คงนึกออกนะครับ สองแสนกว่าคุ้มแล้วครับ บางครั้งการเปลี่ยนเฉพาะตัวที่เสียมันก็ประหยัดครับ แต่ตัวที่เสื่อมแล้วก็จะฉุดให้ตัวใหม่ที่ใส่เข้าไปอายุการใช้งานน้อยลงครับ ถ้าคิดว่าเปลี่ยนยกเซ็ทแล้วใช้ไปอีก สองสามแสนโล ก็คุ้มแล้วครับ มีงบจัดเลยครับไม่ต้องเสียดายไป ส่วนแครกๆๆๆ นี่ฟลายวีลครับ สปริงหลวม ล้า  เท่ากับว่า เสียค่าครูไป 1800 หวังว่าคงรู้สึกดีขึ้นนะครับ  ดีใจด้วยครับที่เอาค่าฟลายวีลคืนได้..ถือว่าอู่มีความรับผิดชอบดีครับผม..หลังจากนี้จะได้ใช้ไปอีกนานๆ เกินแสนโลครับ เปลี่ยนฟลายวีลรอบหน้า คงได้โอเวอร์ฮอลล์เกียร์ภายในทีเดียว..พร้อมทำลายสถิติเกียร์ CVT ที่ใช้ทนด้วยครับ ผมเคยเห็นมานานสุด 370,000 โลครับก่อนซ่อมเกียร์ หลังเป็นที่หวั่นเกรงกันมานานว่า CVT ซิตี้ ไม่ทนบ้าง พังง่ายบ้าง ซ่อมแพงบ้าง จนหลายๆท่านกลัวไม่กล้ามาใช้ หรือขายทิ้งไป จิงๆแล้วหากดูแลดีๆ ผมว่าน่าจะถึง สี่ห้าแสนโลเลยนะเนี่ย ขนาดเกียร์ AUTO ธรรมดาผมเห็น 250,000-300,000 ก็ต้องเริ่มมีซ่อมกันละครับผม..หายแล้วมาอัพเดทให้ชมด้วยนะครับผม
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 21/3/2013 15:19

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21/3/2013 15:37 โดย weerachs

ก่อนที่จะซื้อมาไม่เคยศึกษาเรื่องเกียร์เลยคับ..หลังจากซื้อรถมาแล้ว..มาเจออาการสั่นดังแกรกๆๆ..ตอนเข้าเข้าเกียร์ถอย..อาการกลัวเกียร์ขึ้นสมอง..ยิ่งอ่านก็ยิ่งกลัว..80,000..120,000..150,000 เกียร์พัง..ตอนนี้เริ่มรู้แล้วว่าควรดูแลเกียร์ยังไง..เกียร์พังเร็วส่วนใหญ่น่าจะมาจากการขับที่เร็ว..เท้าหนักกันซ่ะส่วนใหญ่..ซิตี้ เป็นรถที่ต้องการนุ่มนวลในการขับคับ..ไม่ใช่กดให้มันพุ่งหรือคิกดาว์บ่อยๆ..แล้วยิ่งผมมาดูในเวปท่านที่แต่งรถสวยๆ..โหลดเตี้ย..แม๊ก17" ผมว่าคงจะขับกันเร็วแน่นอน..ไม่มีใครแต่งรถเพื่อมาขับแบบเนิบๆหรอกคับ..ต้องโชว์..249,300km เพิ่งเปลี่ยนฟลายวีลล์..เจ้าของเดิมดูแลรถดีมากคับตามที่คุณBall_Korat บอกนั่นแหล่ะคับ..แต่ผมก็ไม่ชะล่าใจคับ..เพราะเลขไมล์เยอะก็ต้องเตรียมเงินเอาไว้บ้าง..
ปล. ยางลองแท่นเครื่องทั้ง3ตัว..ต้องเปลี่ยนทุกกี่ km คับ..ขอบคุณคับผม..^0^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 21/3/2013 15:49

อยู่ที่การใช้งานครับ ส่วนมากก็เกินแสนโลกันทั้งนั้นครับเริ่มเช็คที่ 100,000 โล ครับ หรือถ้ารถไม่ค่อยได้วิ่งก็ 3-5 ปีครับ
ประกอบด้วยปัจจัยดังนี้ครับ ความร้อน ทั้งจากการจอดตากแดด ความร้อนในห้องเครื่องยนต์ มันเป็นยางก็แข็ง กรอบ แตก เสื่อมสภาพเหมือนยางรถและ ลูกหมาก บูช ต่างๆแหล่ะครับ
สองการดึงตัวของเครื่องยนต์ มันกระชากไปๆมาๆ ก็เสื่อมตามการใช้งานครับผม

อาการที่เป็นจุดสังเกตุ ติดเครื่อง ดับเครื่อง สั่นมากกว่าปกติ  ใส่เกียร์เครื่องมีการดึงไป หน้าหลังมาก มีการกระพือดังที่ผมกล่าวไว้ข้างต้นครับ ตัวหน้าซ้ายขวา สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ ตรวจสอบได้เวลาเปิดฝากระโปรงครับ เช็ค 40,000 60,000 100,000 ดูได้ตลอดครับ ตัวหลัง แท่นเกียร์ ต้องดูจากใต้ท้องรถเวลายกขึ้นครับ หรือ จากซุ้มล้อหน้า แต่จะมีซุ้มล้อบังไว้ครับผม ต้องใช้ความชำนาญ หรืออาศัยเครื่องมือ และช่างผู้รู้ครับผม จะมีอาการแตก ร้าว มีคราบน้ำมัน อะไรแบบนี้ครับผม เป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ที่แค่สร้างความรำคาญไม่เสียหายมากครับ แต่ก็มีส่วนให้ชิ้นส่วนอื่นๆ เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นครับผม
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 22/3/2013 09:13

ถามคุณ Ball_Korat..ลูกรอกสายพานเป็นตัวเดียวกันหรือป่าวคับ..แล้วทำหน้าที่อะไรคับ..ผมยังไม่ได้เปลี่ยนเลย..อาการที่เสียของลูกรอกสายพาน..จะมีอาการยังไงบ้างคับ..ขอบคุณคับผม..^0^
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 15:41

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23/3/2013 16:36 โดย weerachs

เช้าวันเสาร์ที่24มีนาคม2556 ณ.อู่พรเทพโช๊คอัพ..สาขาสุขสวัสดิ์อันเรื่องชื่อ..
ทนไม่ไหวแล้วกับการได้ยินกึกๆๆ..ด้านหน้าขวา..เสียเงินซ่อมแล็คไป 16,000ไม่ดีขึ้นเหมือนที่เคยโพสไว้ก่อนหน้านี้
พอถึงอู่เล่าอาการให้ช่างฟัง..ช่างจัดการยกรถขึ้นทันที
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 15:49

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23/3/2013 16:37 โดย weerachs

ช่างบอกว่าไม่ได้เป็นที่แล๊คคับ..แต่เป็นที่โช๊ค..วาวล์เบ้าโช๊คแตกสาเหตุมาจากการ..ตกหลุมอย่างแรง..ผมก็เลยคิดไปถึงเพื่อนผม..เจ้าของรถคันเดิมคงไปลงหลุมมา..ใช้เวลา Built โช๊คประมาณ2ชั่วโมง..
ผมเลยถือโอกาส..ออกไปร้านมินิช๊อปในปั๊มบางจาก..ซื้อการแฟเพื่อรอ Built โช๊คตามที่ช่างบอก..ไม่เกิน 15นาที เอ๊ย
กลับมาถึง Built โช๊คเสร็จแล้ว..เร็วมากทำ2ข้างเลยคับ..ช่างเอามาวางไว้ที่ข้างรถแล้วคับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 15:53

จากนั้นทำการทากาวที่หัวเบ้าโช๊คมั้งคับ..ไม่ได้ถามทาเพราะอะไร..(ช่างอารมณ์ดี..อารมณ์ศิลปินคับ..ทำงานไปฟังเพลงไป)
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 15:56

เิ่ริ่มติดตั้งโช๊คกลับเข้าที่เดิมคับ..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 15:59

ฝั่งด้านขวาคนขับคับ..รับผิดชอบกันคนละฝั่ง..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 16:01

กำลังติดตั้งโช๊ค..(ขัดโช๊คของผมสะเงาวับเลยคับ..^0^)
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 16:04

เรียบร้อยคับ..ใส่ล้อฝั่งขวา
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 16:06

..ใส่ล้อฝั่งซ้าย..เรียบร้อยคับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 16:13

ขอโชว์ภายในร้าน พรเทพโช๊คอัพ..หน่อยคับ..กว้างขวาง..สะอาดเรียบร้อยดีคับ..ขอชมเชย..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 16:15

ภายในอู่ พรเทพโช๊คอัพ..อีกมุมคับ..
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 23/3/2013 16:20

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23/3/2013 18:17 โดย weerachs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23/3/2013 18:16 โดย weerachs

ขับกลับบ้านแบบเงียบ..กริ๊บ..ค่าใช้จ่าย..ข้างละ700คับ..2ข้าง 1,400บาท
แล้วที่ผมเสียเงินกับค่าแล็คมือ2กับอู่ที่แล้วไป 16,000บาท..มันคืออะไรเหร๋อคับ..
ผมโง่..หรือโดนช่างหลอก..หรือช่างไม่มีความรู้จิงๆ..ไม่ไปอีกแล้วคับอู่นั้น..
ขอโชว์ปลาหมอสีที่เคยเลี้ยงที่บ้านสักหน่อย..^0^
ผู้โพสต์: l2ayhachi    เวลา: 23/3/2013 17:11

ปุ่ม   อยู่ไหนครับ   จะกดให้คุณ  Ball_korat  หลายๆทีเลย


ผู้โพสต์: noth1    เวลา: 24/3/2013 22:05

เรียบร้อยแล้วดีใจด้วยครับ ส่วนเรื่องที่เสียเงินไปจากการที่เราไม่รู้หรืออะไรก็ช่าง ไม่ต้องสนใจครับในวันนี้ผมว่าคุณได้รู้ได้ศึกษารถของคุณได้อย่างเข้าใจแล้ว อีกอย่างข้อมูลจากสมาชิกหลายๆท่านที่มาช่วยกันให้ความรู้การแนะนำกันต่างๆนี่ละคือสิ่งที่คุณได้มากกว่าเงินที่เสียไป
ผู้โพสต์: sirapob    เวลา: 25/3/2013 06:33

ติดตามชมมาตลอด
เยี่ยมมากคับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 25/3/2013 09:51

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่แน๊ะนำ..ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจมาตลอด..ตอนนี้ยิ้มได้และขับรถได้แบบไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วคับ..ขับแบบสบายใจเลย..
ยังเหลืออีก1เรื่องที่ต้องทำ คือการหุ้มมฉนวนกันความร้อน เหมือนของคุณ Aria_Type-R ช่วยแน๊ะนำด้วยคับ..ต้องใช้ฉนวนกันความร้อนแบบไหนราคาประมาณเท่าไหร่คับ..ผมจะหุุ้มทั้งหลังคาและประตูทั้ง4ด้านคับผม..จะรถความร้อนได้มากมั๊ย..ขอบคุณมากคับ..^-^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 25/3/2013 10:56

ขออภัยที่มาตอบช้าครับ พอดีไปงาน Music Fes ที่พัทยามาสามวัน เพิ่งกลับครับ ยินดีด้วยครับที่หายแล้ว หากยังดังกึกๆ อยู่ ก็เช็คยางหัวโช๊คด้วยนะครับ ตัวที่ช่างเอากาวใส่ล่ะครับ หากยุบแล้วโช๊คจะให้ตัวไปมาได้ เลยเลื่อนๆ กึกๆ ผมเคยเป็นจากการตกหลุมล่ะครับ รถโหลดด้วยเลยกระแทกแรง และลูกหมากกันโคลงครับ เวลาเลี้ยวเหมือน จะกึกๆ หรือล้อขยับให้ตัวได้ครับ ส่วนของลูกรอกสายพานมี่สอบถามมาครับ เปิดฝากระโปรงหน้าเลยครับ อยู่ตรงสายพาน ที่เป็นโลหะให้สายพานกลิ้งไปมานั่นล่ะครับ คนละตัวกับยางแท่นเครื่องครับ หากเปลี่ยนสายพานส่วนมากก็จะเปลี่ยนลูกรอกด้วยครับเพราะเป็นแสนโลแล้ว ลองถามเจ้าของเดิมดูก่อนนะครับ อาการเสียก็ฝืดครับ หรือมีเสียงดัง กร๊อกๆๆๆๆ  ลูกปืนแตกอ่ะครับ เปลี่ยนเฉพาะลูกปืนได้ครับ หรือยกลูกรอกได้ กรณีสึกมากแล้วครับผม
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 26/3/2013 10:17

ลืมคับ..ยังมีอีกเรื่อง..ที่เคยบอกว่าเรื่องของ ลีเนียรฺ์เกียร์ยังหาร้านเพื่อล้างไม่ได้เลยคับ..เนื่องจากอู่ เฮียก่ำ Auto way Service ผมโทรไปเขาไม่เคยถอดล้าง เขาย้อนกลับมาถามว่า ล้างแล้วหายเหร๋อ..ใครบอก..ผมบอกว่าอ่านจาก สมาชิกหรือเพื่อนที่เล่นรถรุ่นนี้ในชมรมฮอนด้า..พอล้างแล้วหาย..แกตอบเหร๋อ..แกเลยนัดให้ผมเอารถไปที่อู่แกวัันเสาร์ที่23มีนาคม2556ที่ผ่านมา..แต่ผมตัดสินใจไม่ไปดีกว่า..ไม่เคยทำไม่อยากให้ทำเดี๋ยวจะเกิดปัญหา..ดูเหมือนเขาไม่ค่อยเชื่อว่าล้างแล้วจะหาย...เหมือนที่คุณ Ball_Korat พูดกันทั้งวันก็ไม่จบ..เพื่อนๆท่านใดที่อยู่กรุงเทพ..เคยล้างลีเนียร์เกียร์ของ city2003บ้างมั๊ยคับ..ขอชื่อของอู่ที่ไปล้างหรือเบอร์โทรก็ได้คับ..ผมจะเอาไปให้เขาล้าง..ขอบคุณทุกๆท่านคับผม..^0^
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 26/3/2013 13:46

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26/3/2013 14:04 โดย Ball_Korat

ถ้าผมจำได้ รู้สึกจะมีท่านนึง ไปที่เดียวกับท่านแล้วไม่จบเรื่องสะดุด แล้วไปแก้ต่อที่ อู่พลภัทร สาย 3 ผมเคยเห็นคุณเข้าไปติดตามกระทู้นี้ด้วยรึเปล่าครับที่ไปถามที่ตั้งอู่เฮียก่ำครับ ลองดูนะครับผม  เด๋วผมแนบลิงค์ให้ อาการคล้ายๆกัน

http://www.hondacityclub.com/boa ... page%3D1&page=2

แถมด้วย เบอร์โทร แผนที่ และรายละเอียดของอู่ครับ ..เอาใจช่วยครับ..หายไวๆนะครับ

http://www.hondajazz-club.com/smf/index.php?topic=199278.0
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 26/3/2013 14:11

ส่วนเรื่องบุหลังคาเนี่ย  ก็เห็นผลนะครับ เท่าที่ผมลองทำดู  ของผมซื้อที่โฮมโปรครับ มีตั้งแต่ประมาณ 300 บาท ขึ้นไปครับ วิธีถอดบุหลังคา ผมหาในยูทูบครับ ใช้เวลาทำครึ่งวัน เพราะเราทำไม่เป็นครับ ประกอบกับกลัวงัดหมุดยึดหักด้วยครับ ค่อยๆทำเอา ผมเคยลองโทรสอบถามร้านในห้องซื้อขาย ถ้าทำใน กทม 600 บาทครับ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครับ ฉนวนบุหลังคาใช้ได้สองแบบครับ 5mm  กับ 10mm ผมซื้อ 5 เพราะกลัวจะยัดไม่ได้ครับ ปรากฏว่าถอดออกมาแล้ว มันไม่มีช่องว่างที่จะสอดเข้าไปได้ครับ เพราะตรงช่องว่างระหว่างหลังคากับโครงรถผม มีโฟมเทเอาไว้ครับ เลยไม่อยากไปเลาะออก ใช้วิธีการปูทับบนบุหลังคาเดิมเลยครับ เจาะรูให้ไฟเพดานผ่านเอา เวลาบุเอาด้านฟรอยด์ลงล่างนะครับ มันจะเป็นส่วนที่สะท้อนความร้อนถ้าเอาขึ้นสีหลังคาจะไปเร็วครับ ด้านโฟมเป็นตัวซับเสียง เอาขึ้นบนครับ จะว่าง่ายก็ง่ายถ้าได้เคยทำสักครั้งแล้ว ตอนยังไม่เป็นนี่หาวิธีถอดยากครับ งง กลัวเสียด้วย ฉนวนหุ้มม้วนนึงทำได้ประมาณ 8 คัน เหลือบานเลยครับ คิดอีกที  ไปร้านน่าจะสะดวกเร็ว และรถไม่ช้ำครับ..ส่วนทำเองก็ได้ความภูมิใจครับผม ได้เห็นรถเราในส่วนที่ไม่เคยเห็นด้วยครับ..ลองดูครับผม  หลังทำจอดตากแดด ร้อนช้าลงครับ ในครึ่งชั่วโมงนี่ยังไม่ค่อยร้อนเลยครับ ไปพัทยามาจอดริมทะเล ขึ้นมาไม่เป็นเตาอบเหมือนเมื่อก่อนครับ ร้อนในระดับทนได้ อุ่นๆ เหมือนแช่อ่างน้ำอุ่นครับ แอร์เย็นไวขึ้น กลางวันแดดจัดๆ แอร์ยังฉ่ำ กลางคืนหนาวครับ ส่วนประตูผมว่าไม่น่ามีผลเท่าหลังคานะ ส่วนมากบุกันเพื่อเก็บเสียงจากภายนอกให้เงียบขึ้น ฟังเพลงเพราะขึ้น พวกยางขอบประตู ยางลดเสียงจากด้านนอก จะช่วยได้มากกว่านะครับ (รถผมบุแต่หลังคา แล้วจัดฟิล์มดีๆสักชุด เน้นกันร้อน ไม่กันเสียงครับ) ถ้าจัดเต็มทั้งคัน ต้องบุพื้นรถ ซุ้มล้อ ผนังฝั่งห้องเครื่อง หลังคา ประตู หลายพันอยู่ อย่าเรียกว่าเงียบเลยครับ มันสงัด..วังเวงเลยทีเดียว..555+ (แผ่นแดมป์ดีๆทั้งคันประมาณ 20,000 ส่วนการพ่นเคลือบคล้ายเคลือบกันสนิมแต่เป็นเก็บเสียงจากภายนอกครับในคลับซีวิคเห็นมีราคาประมาณหลักพันครับ ไม่เกินครึ่งหมื่น..แล้วแต่คนชอบครับ) รถผมเครื่องเสียงแค่ชุดกลางๆครับ..เลยไม่ได้ทำอะไรมากมาย
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 27/3/2013 08:16

ผมลองสอบถามไปทางเฟสของอู่ พลภัทร สาย3 แล้วคับได้ความว่า..ล้างลีเนียร์เกียร์ Honda City = 400 บาท ครับ
เสาร์นี้จะไปแต่เช้าเลย..เฮียก่ำไม่เคยล้างจิงๆ..อู่เฮียก่ำดีตรงทำไวคับ..ต้องยอมรับว่าไวจิงๆ..เช่นฟลายวีลล์ที่ผมไปเปลี่ยนใช้เวลา4ชั่วโมงคับ..กลับบ้านได้เลย..ส่วนทาง อู่พลภัทร สาย3 ใช้เวลา2วันคับ..ส่วนเรื่องฉนวนกันความร้อนผมดูใน Youtube แล้วเหมือนกันคับ..ว่าจะลองซื้อมาทำเอง..จะยากหน่อยก็ตรงถอดล๊อกตรงด้านข้างที่สายเบลท์นั่นแหล่ะคับ..
ขอสอบถามอีกนิดคับ..ที่คุณส่งลิงค์ให้ผม..ผมอ่านเจอว่า.."ช่างเก่งก็กลับไปรายงานอาการให้เฮียก่ำฟัง แกก็สั่งให้เช็คคอยล์ และโค๊ด ปรากฎว่าโค๊ด O2 ตัวที่ 1 ฟ้องครับ แต่คอยล์ ถอดออกมาดูแล้ว" O2 หรือ โค๊ด คืออะไรคับ..ขอบคุณคับผม..
ผู้โพสต์: Ball_Korat    เวลา: 27/3/2013 10:43

รถรุ่นใหม่ๆ จะมีคอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุมระบบต่างๆมากขึ้นครับ หลังปี 2000 จะมีระบบที่เรัยกว่า OBD เพิ่มขึ้นมาครับ ซึ่งปัจจุบันไปจนถึง OBD III แล้วครับผม พูดง่ายๆก็เหมือนแรมคอมพิวเตอร์ครับ ฉลาดระดับ 32 Bit  64 Bit  128 Bit  มันก็จะทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ  รุ่นเราเป็น OBD I ครับ พอร์ทจะอยู่ใต้พวงมาลัย แถวๆนั้นครับ  คล้ายๆ พอร์ทหลังคอมพิวเตอร์ครับ การทำงานของมันก็เอาเครื่องเช็คโค๊ดมาเสียบ มันก็จะฟ้องว่า จุดไหนเสียครับ เอารหัสที่ได้มาไปเทียบกับคู่มือในการอ่านว่ามันฟ้องอะไรครับ เหมือนการซ่อมคอมพิวเตอร์ครับผม

ส่วนตัวที่จะเป็นตัวฟ้องให้ก็คือเซ็นเซอร์ทั้งหลายแหล่ที่อยู่ภายในตัวรถครับ เช่น O2 ที่ถามมาคือ เซ็นเซอร์ วัดค่าออกซิเจน มีตั้งแต่ กรองอากาศ  ท่อไอเสียใบกลาง ด้านหน้า 1 ตัว ด้านหลัง 1 ตัว เพื่อวัดว่าอากาศปกติมั้ย ผสมกับน้ำมัน จุดระเบิดออกมาปกติมั้ย  หากมีอาการผิดปกติก็จะขึ้นไฟสีเหลืองรูปเครืื่องยนต์บนหน้าปัด (บางท่านเรียกว่า ไฟเอนจิ้นโชว์) ก็ต้องไปเช็คโค๊ดนี่ล่ะครับ ว่ามันเสียตรงไหน แทนที่จะไปรื้อแบบงมโข่งหา ส่วนจะเจอหรือไม่ อยู่ที่ว่ารถคันนั้นมีเซ็นเซอร์มากขนาดไหนครับ  กี่จุด รถยิ่งแพงยิ่งมากครับ ตัวนึงของใหม่ๆ ถูกๆ ก็เกือบสองพันครับ ในรถเราน่าจะมีประมาณ สามตัวนะครับที่เคยเห็น กรองอากาศ(ตรงนี้พวกติดแก๊สระบบดูดเจอกันประจำ เพราะมันอ่านว่าออกซิเจนผิดปกติ หรือที่เรียกว่าแอร์โฟลว Air Flow รถรุ่นแรกๆที่มีเซ็นเซอร์ แอร์โฟลวนี่ล่ะครับจุดแรก ก่อนพวก O2 จะมา)  แคตตาไลติก(ท่อใบกลางเล็กๆใต้ที่นั่งคนขับครับ) และหลังแคตมาท่อใบหลัง (หน้าแคต ตัวนึง หลัง ตัวนึงครับ)  อาจจะมีมากกว่านั้น  เช่นเซ็นเซอร์เกียร์ที่ผมบอกว่า รีเนียร์เสีย ตัว D บนหน้าปัดสีเขียวจะกระพริบสี่ครั้งต่อเนื่องไปเรื่อยๆล่ะครับ หากเป็นรถสมัยก่อนก็ฟังเสียงผิดปกติแล้วไปซ่อมเอาครับ อุปกรณ์พวกนี้มาช่วยดูแลรถ ช่วยอำนวยความสะดวก แลกกับค่าบำรุงรักษาที่สูงขึ้นครับผม  แต่ซ่อมน้อยลง เพราะไม่รอจนอาการหนักครับ

ปล.วิธีการที่ถูกเมื่อมีไฟเอนจิ้นขึ้นหน้าปัด คือหาจุดที่เสีย ไม่ใช่หาวิธีลบโค๊ดนะครับ
ผู้โพสต์: dear2006    เวลา: 27/3/2013 14:39

คุณ Ball_Korat ตอบหมดแล้ว ^^
ผู้โพสต์: dear2006    เวลา: 27/3/2013 14:43

อู่เฮียก่ำแกจะทำงานแบบ ตัวเฮียก่ำจะเป็นผู้วิเคราะห์อาการเสีย แล้วสั่งลูกน้องทำต่อ ตัวแกจะเป็นคนคอยคุมงานในภาพรวม และเข้าช่วยเหลือลูกน้องเวลาเกิดปัญหา จึงทำให้สามารถทำงานได้เร็ว

ส่วนพลภัทร จะแยกเคสงานออกเป็นเคสๆ ครับ คือถ้าเคสเบาก็จะวิเคราะห์ แล้วให้ลูกน้อยทำเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเป็นเคสหนักถึงขั้นยกเครื่อง ยกเกียร์ หรือยกฟลายวีลนั้น ทางพลภัทรเค้าจะจัดเป็นเคสหนัก ช่างใหญ่จะเป็นผู้ลงมือทำเองทั้งหมด จะไม่ให้ลูกน้องรื้อครับ จึงทำให้งานอาจจะช้ากว่าครับผม

ไม่ได้เข้าข้างใคร ใช้มาแล้วทั้ง 2 อู่ ประทับใจทั้งคู่ครับ
ผู้โพสต์: porpan    เวลา: 28/3/2013 11:27

เป็นกำลังใจให้อีกคนครับ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 28/3/2013 16:39

เสาร์นี้จะล้าง ลีเนียร์เกียร์..หลังจากล้างเสร็จ..แล้วจะลองวิ่งรอบเบา..ดูว่ามีอาการกระตุกอีกมั๊ย..ถ้ายังมีอาการกระตุกอีก..จะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งในวันจันทร์หน้าคับผม..ขอบคุณทุกๆท่านคับ..^0^
ผู้โพสต์: NONGVESPA    เวลา: 28/3/2013 23:00

เป็นกำลังใจให้ครับ สุดยอดจริงๆ
ผู้โพสต์: weerachs    เวลา: 30/3/2013 19:13

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30/3/2013 22:04 โดย weerachs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30/3/2013 19:29 โดย weerachs

เย็นวันเสาร์ที่ 30มีนาคม2556 เป็นอู่ที่เน้นซ่อม Honda เป็นส่วนใหญ่คับ..
เพราะเป็นช่างที่เคยอยู่ศูนย์ฮอนด้า..และมาเปิดอู่ซ่อมฮอนด้าคับ..อยู่แถวบ้านผมเอง..
หลังจากช่างถอดตัวกรองอากาศออกไปแล้ว..ก็เริ่มทำการถอดแจ๊กต่างๆ..สายต่างๆ..เพื่อถอดชุด..ลีเนียร์เกียร์ออกมาคับ




ยินดีต้อนรับสู่ HondaCityClub (http://hondacityclub.com/board/) Powered by Discuz! 7.2