การรุกรานของรัสเซีย: ปูตินยังคงต้องการยึดครองยูเครนเป็นส่วนใหญ่ – US
การรุกรานของรัสเซีย: ปูตินยังคงต้องการยึดครองยูเครนเป็นส่วนใหญ่ – USประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ยังคงต้องการจับกุมยูเครนส่วนใหญ่ [url=https://www.spinix24hr.com/][b]สล็อต[/b][/url] หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐเชื่อ
กองทหารของมอสโกอ่อนกำลังลงจากการสู้รบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ประเมินว่า พวกเขาทำได้เพียงสร้างดินแดนได้ช้าเท่านั้น
หมายความว่าสงครามอาจคงอยู่เป็นเวลานาน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ Avril Haines กล่าว
ในเดือนมีนาคม มอสโกได้เน้นย้ำความพยายามในการยึดพื้นที่ Donbas ของยูเครน หลังจากที่ไม่สามารถยึด Kyiv และเมืองอื่นๆ ได้
นางไฮน์ส เจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่า ปูตินยังคงมีเป้าหมายเช่นเดียวกับที่เขายึดถือไว้ในช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้ง เพื่อยึดครองยูเครนเป็นส่วนใหญ่
แต่เธอบอกว่า รัสเซียไม่น่าจะบรรลุเป้าหมายนั้นในเร็วๆ นี้
“เรารับรู้ถึงความไม่สอดคล้องระหว่างวัตถุประสงค์ทางทหารระยะใกล้ของปูตินในพื้นที่นี้ กับความสามารถทางทหารของเขา ความทะเยอทะยานของเขากับสิ่งที่ทหารสามารถทำได้” เธอกล่าวในการประชุมกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายเบื้องต้นในการยึด Kyiv รัสเซียได้มุ่งเน้นไปที่การยึดดินแดนในภูมิภาค Donbas ทางตะวันออก ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่นายปูตินอ้างว่ายูเครนได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กับผู้พูดภาษารัสเซียอย่างไม่ถูกต้อง
กองกำลังรัสเซียได้กำไรจากที่นั่น เมื่อเร็วๆ นี้เข้าควบคุมเมือง Severodonetsk แต่ความคืบหน้าได้ช้า และกองกำลังยูเครนได้ต่อต้านอย่างแข็งแกร่ง
สงครามที่ยาวนาน
ในความคิดเห็นสาธารณะครั้งแรกของเธอตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเกี่ยวกับการประเมินข่าวกรองของสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงคราม นางเฮนส์แนะนำว่าการรุกรานของรัสเซียจะบดบัง "เป็นระยะเวลานาน" และ "ภาพยังคงน่ากลัวอยู่"
เธอกล่าวว่าหน่วยข่าวกรองเห็นเหตุการณ์สามสถานการณ์ว่าสงครามจะเกิดขึ้นได้อย่างไร น่าจะเป็นความขัดแย้งที่เคลื่อนไหวช้ากับรัสเซียซึ่งทำให้เกิด "กำไรที่เพิ่มขึ้นโดยไม่มีการฝ่าฟัน"
ความเป็นไปได้อื่น ๆ ที่มีโอกาสน้อยกว่านั้นรวมถึงการบุกทะลวงรัสเซียครั้งใหญ่หรือการรักษาเสถียรภาพของแนวหน้าโดยยูเครนบรรลุผลกำไรเล็กน้อย
อาจหมายความว่ามอสโกต้องพึ่งพา "เครื่องมือที่ไม่สมมาตร" มากขึ้นในการกำหนดเป้าหมายศัตรู รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ ความพยายามที่จะควบคุมแหล่งพลังงานและแม้แต่อาวุธนิวเคลียร์
ความเห็นของนางสาวเฮนส์มีขึ้นในวันพุธ หลังจากที่ผู้นำนาโตให้คำมั่นว่าจะยืนหยัดอยู่เบื้องหลังยูเครนตราบเท่าที่ต้องใช้เวลา ส่งเสริมการปรากฏตัวของกองกำลังทั่วยุโรป และเชิญฟินแลนด์และสวีเดนเข้า ร่วมกลุ่ม
เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก หัวหน้านาโตเรียกสิ่งนี้ว่าการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดของพันธมิตรนับตั้งแต่สงครามเย็น โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ สาบานว่านาโตจะ "เสริมกำลังในทุกทิศทางทั่วทุกอาณาเขต ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางทะเล"
ในการตอบสนองต่อความเป็นไปได้ที่ทั้งสองประเทศนอร์ดิกจะเป็นสมาชิกนาโต นายปูตินกล่าวหาว่าพันธมิตรทางทหารจงใจเพิ่มความตึงเครียดขึ้น
“หากกองกำลังนาโตและโครงสร้างพื้นฐานถูกปรับใช้ [รัสเซีย] จะถูกบังคับให้ตอบโต้” นายปูตินกล่าวขณะเดินทางไปเติร์กเมนิสถาน
ในขณะเดียวกันรัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีก 1 พันล้านปอนด์ (1.2 พันล้านดอลลาร์)เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของการสนับสนุนจนถึงตอนนี้ มีเพียงสหรัฐฯ เท่านั้นที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนมากกว่าสหราชอาณาจักร
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวว่า ประเทศของเขาต้องการเงินประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.12 พันล้านปอนด์) ต่อเดือนเพื่อเป็นทุนในการทำสงครามกับรัสเซีย
หน้า:
[1]